วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

ไพ่ยิปซีเสริมราศีผม 5 สาวเมษ


ไพ่ยิปซีเสริมราศีผม 5 สาวเมษ
สาวจักรราศีเมษ ไพ่ยิปซี จักรพรรดิ THE EMPEROR ใบที่ 4 (16 เม.ย.-15 พ.ค.) ไพ่ยิปซีจักรพรรดิเป็นไพ่ใหญ่สุดในสำรับของผู้ชาย ไพ่หมายเลข 4 แต่ตรงกับสาวราศีเมษ แสดงถึงความมีอำนาจอยู่ในมือ ความยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าคนนายคนได้ด้วยกำลังความสามารถ มีลูกน้องบริวารนับถือ
สาวแกร่งในสำรับไพ่ผู้ชาย มีความทระนงในตัวเอง เป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก สังเกตได้จากสมัยเรียนมักเป็นนักกิจกรรมตัวยง เป็นหัวโจกของเพื่อน พาเพื่อนลุย และลุยแทนเพื่อนได้ทุกเวลา กล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออก เชื่อมั่นในตัวเองสูง เรียกว่าแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าส์ไม่กลัวผู้ชายอกสามศอก บางคนออกลักษณะของทอมบอยไปเลย
สาวจักรราศีจักรพรรดิ์ ถ้ามีความขยันและบากบั่น พื้นดวงสนับสนุนเข้าขั้นเศรษฐีนีได้ไม่ยาก
สาวใจนักเลง ชอบการท้าทายและกล้าเผชิญปัญหารอบด้านอย่างไม่สะท้าน ชายใดใจหาญคิดจะมาเป็นแฟนต้องเก่งกว่าและเอาชนะความดื้อและทิฐิของเธอให้ได้ เพราะถ้าคุมเธอไม่อยู่อนาคตกลัวเมียแน่นอน เพราะเธอจะกดและข่ม ออกคำสั่ง เหมือนเสือขยุ้มเหยื่อเลยทีเดียว เพราะไพ่จักรพรรดิคุมอำนาจในครอบครัวเพียงคนเดียว
แต่ถ้ารักแล้ว อะไรก็ยอมใช่ไหมครับ คุณผู้ชายทั้งหลาย
เรื่องคู่ครอง สาวราศีนี้มักได้แฟนอายุมากกว่า 5-10 ปีขึ้นไป หรือได้เนื้อคู่เป็นคนต่างชาติต่างภาษา
ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเก่งนี้เอง ทำให้เกิดผลเสียตามมา สาวราศี THE EMPEROR จะดื้อรั้น ใจร้อน ตัดสินใจเร็วแล้วไม่ฟังเสียงใครด้วย ยามเมื่อเธอเม้งแตก จะทำให้คนรอบข้างที่อยู่ด้วยกระเจิงไปคนละทาง
ทรงผมของสาวที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง จะไว้ทรงไหนก็ได้แล้วแต่บุคลิกและความแรงของนิสัย อยากหวานก็ได้ จะไว้ทรงเปรี้ยวก็ไม่มีใครค้าน เพราะไม่มีใครกล้าค้าน ทรงยาว บ๊อบ สไลด์ข้าง ซอยสั้น ทำได้ทั้งนั้น เพียงแค่เอาความหนาของผมออก เพื่อให้ผมเรียงเส้นอย่างมีมิติ ไม่พองฟู หรือหนาเตอะเหมือนสวมหมวกกันน็อกเป็นพอ
สาวใดที่มีผมชี้ฟู แนะให้ทำการยืดหรือรีบรอนดิ้งผมก่อน เลี้ยงยาวไปก่อนสักพัก ถ้าโคนผมเริ่มขึ้น คุณจะหันมาเปลี่ยนลุคซอยสั้น ก็ดูเปรี้ยวไปอีกแบบ แต่ถ้าซอยสั้นแนบรูปหน้า ปลายสะบัดได้รูปรับแก้มพอดี หน้าม้าสไลด์เฉียง รับรองว่าทรงนี้ได้ใจผู้ชายอีกหลายคน ทั้งนี้ต้องดูจากบุคลิกและความเป็นตัวของตัวเองเป็นหลัก
ด้วยความเป็นคนที่ทำงานแข่งกับเวลา และใจร้อน สาวแกร่งไพ่ THE EMPEROR จะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเซตผมเท่าไหร่ ตื่นขึ้นมาจากที่นอน สางผมแล้วเซตผมได้ทันที ดังนั้นควรหาช่างที่มีฝีมือ ซอยผมคุณให้เป็นทรงที่ไว้ง่ายเข้าไว้ ทำด้วยตัวเองดีที่สุดไม่ต้องพึ่งร้านทำผมบ่อยๆ ประหยัดเงินได้มากโข
สีผมของสาวราศีเมษ จะไว้สีแรงแค่ไหนก็ได้ ถ้าใจรับไหว แต่แนะให้ไว้สียอดนิยม คือ สีน้ำตาล น้ำตาลอมเขียว น้ำตาลประกายทอง น้ำตาลหม่นหรือเข้ม ได้หมด แล้วแบ่งช่อทำไฮไลต์เล็กๆ รอบผม ถ้าเปรี้ยวเข้าขั้นเทพแล้ว อยากทำช่อผมเป็นสปอร์ตไลท์ไปเลยก็ได้ เพียงแค่ทิ้งระยะเวลากัดสีผมให้นานหน่อย ใช้ไฮโดรเจน 12 % กัดจนช่อผมออกสีขาว ทำช่อใหญ่เข้าไว้จะเพิ่มความโดดเด่นให้เนื้อผม ขับวงหน้าให้ขาวน่ามองได้อีก
วันที่พิเศษหน่อย ก็ใช้เบเบี้ลิสต์แบบเกลียวใหญ่ บิดปลายผมให้หมุนพลิ้ว หรือเกล้าผมรวบข้างแค่นี้ก็ออกงานสังคมได้ เครื่องประดับติดผมที่ถูกโฉลกกับคุณ คือสีดำ ขาว หรือเทา ดูสุภาพและเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพ
สาวจักรราศีเมษ มีความเป็นผู้นำ ถ้าหมั่นดูแลตนเองให้ดีทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม บุคลิกจะดึงดูดทุกสายตา เพิ่มราศีส่งผลให้ติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ง่ายขึ้น และส่งผลดีต่อสาวที่ประกอบอาชีพ ดังนี้ กิจการส่วนตัว นายหน้า ประกัน อาหาร เสริมสวย เสื้อผ้า นักแสดง งานบันเทิง ครีเอทีฟ ดีไซน์เนอร์ งานออแกไนเซอร์
พฤหัสบดีหน้า ไพ่ยิปซีเสริมราศีผม สาวจักรราศี พฤษภ ไพ่ยิปซี สังฆราช THE HIEROPHANT.



ราศีเมษ รูปร่างลักษณะ: ลักษณะปานกลาง ไม่อ้วน ตาคม หน้าผากกว้าง ลำคอค่อนข้างยาว ฟันเป็นระเบียบ ผมดำไม่สนิทอุปนิสัยทั่วไป: เป็นสาวที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง เชื่อว่าอะไรที่ผู้ชาย ทำได้ผู้หญิง ต้องทำได้ เป็นคนกล้าหาญชาญชัย มีความพยายามเป็นเลิศ รักความยุติธรรม ตรงไปตรงมา สนใจค้นคว้าหาเหตุผล มีความ ทะเยอทะยานที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุดของชีวิตทรงผมที่เหมาะ: เธอจึงเหมาะกับทรงผมซอยสั้นแนบกับรูปหน้า ปลายสะบัดได้รูปบ่งบอก ถึงความมีอิสระ
อาจารย์ พัศสรรค์ รักษ์มีธรรม

ไพ่ยิปซีเสริมราศีผม 7 สาวเมถุน


ไพ่ยิปซีเสริมราศีผม 7 สาวเมถุน
สาวจักรราศีเมถุน ไพ่ยิปซี ความรัก THE LOVERS ไพ่หมายเลข 6 ( 16 พ.ค.- 15 มิ.ย.)
สาวโรแมนติก ราศีเมถุน ไพ่แห่งความรัก THE LOVERS หมายเลข 6 สาวที่มีชีวิตรายล้อมด้วยความรักเป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิต เกิดมาเพื่อความรัก เติบโตด้วยความรักจากคนรอบข้าง และเสาะแสวงหาคนที่รักคุณ ครอบครองและจากลากันด้วยความรักอันเป็นบทสรุปสุดท้ายของชีวิต
เสน่ห์ของสาวสวยไพ่ THE LOVERS จึงเต็มเปี่ยมทุกอนู ทั้งรูปร่าง หน้าตาและการพูดจา ชอบการติดต่อสื่อสารเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ค่อยอยู่นิ่ง บริหารเสน่ห์ได้ทุกวี่ทุกวัน พูดจาอ่อนหวาน สุภาพและน่าเชื่อถือ ถ้าสาวใดเกิดราศีนี้มีทุนเป็นรูปทรัพย์อยู่แล้วบวกกับวาทศิลป์ที่ไปด้วย รับรองว่าตำแหน่ง ขวัญใจสื่อมหาชน คงไม่ไปไหนแน่ๆ เพราะเธอเป็นคนที่สนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง ชอบศึกษาหาความรู้และปรับตัวเข้าหาสิ่งแวดล้อมได้ดี
แต่งตัวทันสมัย อัพเดตแฟชั่นรอบตัวอยู่ตลอดเวลา ทำงานไวคล่องแคลว ร่าเริงได้ทุกสถานการณ์
ข้อเสียของสาวจักรราศีความรักนี้ คือ มีความเป็นผู้หญิงเยอะไปหน่อย คิดเล็กคิดน้อย ขี้น้อยใจ และอารมณ์ไม่คงที่ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เบื่อง่ายไม่ชอบความจำเจ ใครคิดจะมาจีบสาวราศีนี้ต้องหมั่นแต่งตัวให้ทันสมัย ดูดีและตามเธอให้ทัน ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนเขี่ยทิ้งง่ายๆ แต่ถ้ารักใครแล้ว เธอจะปรณนิบัติเอาใจใส่คนรักสุดฤทธิ์สุดเดชสุดใจ
สาวราศีนี้จึงมักสมหวังในเรื่องความรัก หากแม้ผิดหวังจากใครก็หาได้ง่ายๆ เพราะผู้ชายมีให้เลือกเหมือนผักปลา
อ้อ แต่อย่าลืมว่าสาวราศีนี้เป็นคนเปิดเผย ยิ้มง่าย คุยเก่ง ดังนั้นจึงเป็นคนที่เก็บความลับไม่ค่อยอยู่ ใครเพลอพูดอะไรที่เป็นความลับให้สาวคนจักราศีนี้ฟัง รับรองว่ารั่วไหลแน่นอน เพราะเธอต้องเพลอหลุดปากพูดแบบไม่รู้ตัวแน่ๆ
โดยภาพรวมแล้ว ถือได้ว่าสาวจักรราศีเมถุน เป็นสาวที่มีเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงมากว่าบรรดาไพ่ราศีใบอื่นๆ
ลักษณะโดยทั่วไป สาวสวยไพ่ THE LOVERS จะมีรูปร่างสมส่วน สูงระหง ผิวค่อนข้างบอบบาง ดวงตาแจ่มใสเป็นประกาย ปลายจมูกงอนแล้วหน้าจะอ่อนวัยกว่าอายุจริงมาก หรือเรียกได้ว่าหน้าไม่แก่ตามอายุนั่นเอง
ดังนั้นทรงผมที่เหมาะกับสาวเสน่ห์ล้นปรี่ จึงต้องเน้นความเปรี้ยวเข้าไว้ เพราะถ้าไว้ผมยาว เส้นตรง ดกดำ ไม่ทำสีหรือ
เพิ่มลูกเล่นให้กับผม รวบหนังยางมัดจุกผมทั้งวัน รับรองว่าเสน่ห์หายตายสนิท จอดไม่ต้องแจว หน้าตาดีแต่ผมดำเมี้ยม แข็งถื่อดูเป็นคุณป้า หรืออาม่านั่งเฝ้าหลานไกวเปลที่บ้านไปเลย สาวราศีนี้จึงไว้ได้ทุกทรง ทุกสไตล์ ไม่ต้องเกรงใจหน้าตากันเลยทีเดียว
ถ้าอยากกระชากวัย ลองตัดบ็อบสั้น แบบนิโคลก่อนมีลูกสอง ทรงนั้นจะทำให้คุณดูเป็นเด็กหลอกตาหนุ่มละอ่อนได้มากโข ทรงนี้ที่เห็นดาราสาวไว้อีกคน คือวีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช นี่ล่ะ ตัดแล้วได้แฟนเด็กกว่ามาควงบ่อยๆ สไตล์ผมเป็นแบบ บ็อบทุย ปิดข้างแก้ม ไว้หน้าม้าแลดูแอ๊บแบ็ว หรือไว้ผมยาวขึ้นมาอีกนิด ประมาณบ่า แล้วสไลด์ปลายบาง ดัดปลายเป็นลอนใหญ่ ไว้ผมม้านิดหนึ่ง ปิดหน้าผากโหนก เหมือนทรงน้องจีจ้า ช็อตโกแลต ดูดีมีลูกเล่นก็เข้ากับราศีนี้ดี สาวหวานแอบร้ายลึก ไว้ผมสไลด์ปลายบางพลิ้วไหว แล้วเล่นสีเข้าไปให้ดูมีมิติของเนื้อผม ขับผิวหน้าให้กระจ่างใสดูมีราศี ด้วยสีพื้นรองเป็นสีผม สีน้ำตาล โค้ก แล้วขับความเด่นของสีผมด้วยช่อผมสี หรือทำโลว์ไลต์ ไฮไลต์ แล้วไล่ไปสปอร์ตไลต์ในผมทรงเดียวกันก็ได้ ดูแล้วมีความเคลื่อนไหวของชั้นสีเลื่อมล้ำเป็นมิติของผมเวลาโดนแสงแดด
อุปกรณ์เสริมผมเปรี้ยว วัยรุ่นก็กิ๊ปเก๋ ๆ หลากสีสัน หรือที่คาดผมสีขาว สีเงิน สีทอง ส่งราศีให้จับที่เรือนผมและใบหน้า
อาชีพที่ควรทำผมเสริมราศีตัวเอง เช่น ประชาสัมพันธ์ งานสื่อสาร นักข่าว นักแสดง ธุรกิจส่วนตัว ไกด์นำเที่ยว
วันพฤหัสบดีหน้า พบกับ นิสัยและทรงผมสาวจักรราศีกรกฎ ไพ่ยิปซีอัศวิน THE CHARIOT สาวนักสู้.


วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

ดูดวงรายปี



เสริมดวงตามปีนักษัตริย์
สำหรับคนเกิดปีชวด
ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีชวด หากินเก่ง ปากจัด มั่งมี (ขึ้นอยู่กับดวง)ปีเสริมดวงจะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหาล้วนดีทั้งสิ้นคือ1. ปีฉลู (วัว) เสริมดวงเงิน2. ปีมะโรง (งูใหญ่) เสริมความคิด3. ปีวอก (ลิง) เสริมความสุข
ปีที่ห้าม หรือชงกัน คือ ปีมะเมีย (ม้า) จะทำให้ทะเลาะกันมากมาย เนื่องจากความคิดไม่ลงกัน ควรแก้ด้วยการ หาวัวขาวคู่มาตั้งทางทิศใต้ แก้ภัยพาลได้ และทำบุญ กล้วย ส้มคู่ ดอกรัก มาถวายพระที่บ้านและพระประธานในโบสถ์ แก้เคล็ด แผ่เมตตาให้คนรัก
ปีชวดตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ ตกพึ่งตนเอง ใช้เงินเก่ง ควรเก็บเงินให้อยู่และเสริมด้านวิริยะ จะทำให้เป็นที่พึ่งของคนทั่วไปได้- เกิดวันจันทร์ ตกศึกษาเล่าเรียน ภายหน้าได้เป็นใหญ่ ต่อไปจะร่ำรวย ยกเว้นมีวิบากกรรมเยอะ ควรมั่นมุ่งศึกษาหาความรู้จะดีขึ้น ชีวิตต่อไปจะมีความสุข ร่ำรวย- เกิดวันอังคาร ตกลำบากช่วงต้นชีวิต หากินเหนื่อย แต่ต่อไปพบผู้อุปถัมภ์ พ้นทุกข์กลางคน ยามแก่ได้ดี
-เกิดวันพุธ ตกมิดี ทำบุญคนไม่ขึ้น เหนื่อยยากต้องหมั่นทำบุญกระเบื้อง ชีวิตจึงจะดีขึ้น มักอาภัพ ควรหมั่น พบผู้รู้ชีวิตจะสว่าง- เกิดวันพฤหัส ตกมีบุญ จะทำสิ่งใดมีเทพไทช่วย หมั่นอธิฐานต่อไปจะมั่งมีร่ำรวยบริบูรณ์ ชะตาสมบูรณ์ ต่อไปจะมั่งมี- เกิดวันศุกร์ ตกเป็นเซียน บริวารมาก มีผู้ลายล้อมพร้อมสมานทุกสิ่งดีพร้อม ดวงดี มีพร้อม ด้วยบุญญา- เกิดวันเสาร์ ตกที่ดี ทุกสิ่งมี อำนาจมา จะได้ข้าทาสต่อไปเป็นใหญ่

สำหรับปีฉลู
ตามนักษัตรจีนกล่าวว่า ปีฉลู มุ่งมั่น เอาอะไรเอาให้ได้ ไม่ยอมคน ต่อสู้จนสำเร็จปีที่เสริมดวงอยู่ด้วยกันดี จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบค้าหาผลประโยชน์ จะเสริมดวงคือปี1. ปีชวด (หนู) เสริมการเงิน2. ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมการงาน3. ปีระกา (ไก่) เสริมความสุข
ปีที่ห้าม หรือชงกันคือปีมะแม (แพะ) จะทำให้ล้มเหลวเข้ากันไม่ได้ ควรแก้ด้วยการหาลูกแก้วมังกร มาไว้หัวนอนทางทิศตะวันออก จะทำให้ความรักสว่างขึ้น และทำบุญลูกตาล ดอกมะลิ ไหว้พระขอพรเทพให้คู่รักดีขึ้น และแก้เคล็ดไปถวายแสงสว่าง ขอด้านชีวิตคู่ให้สดใสขึ้นก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้
ปีฉลูตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ ตกหาเช้ากินค่ำ ต้องเหนื่อยยาก หากินลำบาก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ควรหามาบูชาเสริมดวงชีวิตจะดีขึ้น - เกิดวันจันทร์ ตกชะตากำเนิดเป็น เจ็งหลี่กั่กอดีตชาติ มีบุญเก่าตามมา ควรหมั่นกตัญญู ต่อไปได้ดี มีอำนาจ มีราชทรัพย์ มิตกต่ำ มีคนอุ้มชูจนตาย - เกิดวันอังคาร ตกเป็นใหญ่- เกิดวันพุธ ตกเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง วัวหากิน ต้องดิ้นรนขยันหาเลี้ยง ภายหลังได้ดี ลำบากตอนต้น ภายหลังได้ดี - เกิดวันพฤหัส ตกเป็นที่พึ่งของผู้อื่น ตกปัญญา เฉลียวฉลาดหาความรู้ สามารถสร้างตัวได้เป็นปึกแผ่นและเป็นใหญ่ในภายหน้า เป็นคนมีความรู้ต่อไปร่ำรวย- เกิดวันศุกร์ ตกอาภัพรัก งานดี ทุกอย่างดี ยกเว้นความรักมักเป็นม่าย หรือผัวมีเมียแล้วมารัก ทำให้เป็นทุกข์ ต้องหมั่นกตัญญูพ่อแม่ แก้เคล็ดได้- เกิดวันเสาร์ ตกดิ้นรนต่อสู้ ระหก 2 ครั้ง ภายหลังได้ดี ต้องเหนื่อย ต้องยาก ต้องหมั่นสวดมนต์ทุกอย่างดีขึ้น ด้วยกุศลนำพา
ข้อคิดปีฉลูต้องหมั่นทำเพียร ละเว้นกิเลส หมั่นใช้ปัญญา หาความรู้ และสู้ความจริง ทุกสิ่งจะมาเหนื่อยยาก อาภัพ หมั่นทำกุศล จะช่วยให้

สำหรับปีขาล
ปีที่เสริมดวงอยู่ด้วยแล้วรวย จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหา จะขอความช่วยเหลือ จะเสริมดวงคือคนปี1. ปีมะเมีย (ม้า) เสริมการเงิน2. ปีจอ (สุนัข) เสริมความคิด3. ปีกุน (หมู) เสริมร่ำรวย
ปีที่ห้าม ชงกันคือ ปีวอก (ลิง) อยู่กันทำงานด้วยกันจะทำให้วุ่นวาย ไม่ลงรอยกันควรแก้ ด้วยการประดับรูป ต้นไผ่เงิน ความร่มเย็นจะเกิดและทำบุญด้วยอักษรจีนมงคล ส้ม ขนุน 2 ผล จะแก้เคล็ดได้
ปีขาลตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ ตกต้องทำกิน บนแรงตนเอง ทำคุณเขาไปเหมือนไฟตกน้ำ หากไปไกลที่ได้ดีนักแล- เกิดวันจันทร์ ตกต่อสู้ ต้องดิ้นรน พบความเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง แต่ต่อไปเอาชนะอุปสรรคเป็นยอดคน อีกไม่นานเป็นใหญ่- เกิดวันอังคาร ตกทำเงิน ปัญญาเลิศ จิตใจเด็ดเดี่ยว กล้าติดสินใจ โมโหฉุนเฉียว ภายหลังได้ดี- เกิดวันพุธ ตกตะบะเดช ราชอำนาจมากมาย ใจบุญสุนทาน มักได้บุญมาเพราะกุศลตน- เกิดวันพฤหัส ตกอำนาจราชศักดิ์ มีปัญญา มีวาสนา พรักพร้อมบริวาร ต่อไปได้เป็นใหญ่นักแล- เกิดวันศุกร์ ตกทำบุญ ต้องหมั่นทำบุญ จะได้สมหวังดังจิตเจตนา- เกิดวันเสาร์ ตกราชสีห์ มีวาจาเป็นเลิศ เทพปกปักษ์ ภายหน้าร่ำรวยข้อคิดปีขาลมีผู้ปกปักษ์ พิทักษ์รอบกายและต้องโปรดสัตว์ ตามปัญญัติฟ้าต่อไปภายหน้า เป็นที่พึงแล


สำหรับปีเถาะ
ตามนักษัตรจีนกล่าวว่าปีเถาะใจคอกล้าหาญ รักสงบ ล้วนหาเงินให้ครอบครัวปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน จะหุ้นส่วนธุรกิจ จะเสริมดวงคือคนปี……………1.ปีมะแม (แพะ) เสริมความสุข2.ปีกุน (หมู) เสริมการเงิน3.ปีมะโรง (งูใหญ่) เสริมความคิดปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีระกา (ไก่) จะทำให้ยุ่งเหยิง ตีกัน ไม่เข้าใจกัน วุ่นวายควรแก้ : ด้วยการประดับ กระดาษทองรูปเจ้าแม่กวนอิม ไว้ทางทิศตะวันตก แก้เรื่องเลวร้ายให้ดีขึ้น และทำบุญ โดยถวายสังฆทานอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรให้ได้รับและเปิดให้สมหวังด้านชีวิตคู่ปีเถาะตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ มีความความสำเร็จได้- เกิดวันจันทร์ มีผู้อุปถัมภ์มากมาย ทำอะไรสำเร็จ ภายหน้าได้ดี- เกิดวันอังคาร มังกรคู่ ต้องระวังสุขภาพ ภายหลังจึงได้อำนาจ- เกิดวันพุธ นิสัยเอาอะไรต้องเอาให้ได้ ขี้น้อยใจ ปรับตัวเก่ง ภายหลัง ทุกข์ยากก่อนจึงได้ดี- เกิดวันพฤหัส นิสัยหวั่นไหว การตัดสินใจรวนเร แต่ปัญญาดี หามีผู้รู้ช่วยเหลือ ภายหลังได้ดี- เกิดวันศุกร์ สำเร็จเป็นเซียน มีปัญญาเป็นเลิศ เข้าสังคมเก่ง ภายหลังได้เป็นใหญ่กว่าทุกคน- เกิดวันเสาร์ ตกบารมี ได้ปกครองคน พรั่งพร้อมบริวาร ภายหน้าได้นำคน

สำหรับผู้เกิดปีมะโรง

ตามนักษัตรจีนกล่าวว่าปีมะโรง ปีงูใหญ่ มากมีบริวาร จิตใจห้าวหาญ ภายหลังได้ดีปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน จะร่วมธุรกิจ จะคบค้าล้วนเสริมกันคือปี.1.ปีมะโรง , ปีมะเส็ง เสริมการเงิน2.ปีชวด (หนู) เสริมความคิด3.ปีวอก (ลิง) เสริมความรู้ซึ่งกันและกัน4.ปีระกา (ไก่) เสริมการเงินปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีจอ (สุนัข) จะทำให้พูดกันไม่รู้เรื่อง ทิฐิ เข้ากันยากได้ หรือไปทำบุญขอพร วัดชนะสงคราม จะชนะศัตรูหมู่มาร อุปสรรคทั้งหลายได้ ไปขอพรวันเกิดตนเองข้างขึ้น 1-15 ค่ำ จะทำให้คลายทุกข์ได้ปีมะโรงตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ เมื่อเยาว์วัยพบอุปสรรคต้องฝ่าฟัน ทุกข์เรื่องครอบครัว ล้มลุกหลายครั้ง ภายหลังได้ดี ได้เป็นใหญ่- เกิดวันจันทร์ ใจคอลอกแล็ก ไม่แน่นอน เวลาดีดีใจหาย เวลาร้ายใจร้อน น่าดู โมโหง่าย ควรใจเย็น ๆ ต่อไปได้ดี เกิดวันอังคาร ใจร้อนดุจนาค ตัดสินรวดเร็วหากไม่ยั้งคิดชีวิตมลาย ควรตั้งสติ ชีวิตนำพาจึงได้เป็นใหญ่- เกิดวันพุธ เป็นคนชอบวางแผน คิดการใหญ่ แต่ใจไม่กล้า หากได้ผู้รู้ต่อไปดีไซร้ คนต้องกราบไหว้- เกิดวันพฤหัส ตกปัญญา เพื่อนฝูงมากมี ต่อไปจึงดีเพราะเพื่อนฝูงตน- เกิดวันศุกร์ เชื่อมั่นตนเองสูง ไม่ยอมฟังใคร เอาใจเป็นใหญ่ ต่อไปล้มลุกไม่เหมือนใคร- เกิดวันเสาร์ เป็นคนใจกว้าง คบได้ทุกระดับ แต่อย่าวางใจเพื่อน มักเจอไม่จริงใจ นิสัยผู้นำ กล้าคิดกล้าทำ ความคิดลึกซึ้ง ต่อไปเจอผู้อุปถัมภ์ได้ดี


สำหรับผู้เกิดปีมะเส็ง
ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีมะเส็ง ชีวิตมีไหวพริบ ชอบจินตนาการ หาสิ่งใหม่ ๆ (ขึ้นอยู่กับดวง) ปีที่เสริมดวง จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหา ล้วนเสริมกันคือปี...............1.ปีฉลู (วัว) เสริมเงิน2.ปีระกา (ไก่) เสริมความสุข3.ปีจอ (หมา) เสริมความคิดปีที่ห้าม ชงกันคือ (หมู) จะทำให้มีปากเสียงกัน ไม่ยอมกัน ทำให้ชีวิตล้มเหลว ต้องแก้ด้วยการ หาแจกันแดง ดอกไม้ชมพู ไว้ทางทิศใต้และไปทำบุญบ้าน การทำบุญบ้านอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร วิญญาณเด็ก วิญญาณบรรพบุรุษ วิญญาณเจ้าที่เจ้าทางให้คุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข จะทำให้ครอบครัวร่มเย็นขึ้นปีมะเส็งตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ ตกต้องเหนื่อยใช้สมอง พึ่งตนเอง แต่ต่อไปได้ดีเพราะตนเอง- เกิดวันจันทร์ ตกเศรษฐี จะมีผู้อุปถัมภ์ จะมีความสุข หากทุกข์เรื่องความรัก มีคนช่วยนักแล - เกิดวันอังคาร ต้องต่อสู้จึงจะก้าวหน้า ภายภาคหน้าได้คนช่วย ต้องมุ่งมั่นจึงได้ดี บางทีได้โชคลาภลอย เพราะตนเคยทำไว้เอย- เกิดวันพุธ อย่าหูเบา การณ์จะเสีย ควรหนักแน่นในเหตุผล แล้วทุกอย่างจึงจะดี- เกิดวันพฤหัส การดำเนินชีวิต ชอบใช้ไหวพริบ มีสติปัญญาดี ได้เป็นผู้นำ ต่อไปได้เป็นใหญ่ วาสนาดีนักแล- เกิดวันศุกร์ มีกุศลเก่ามาหนุนนำ ต่อไปมีทรัพย์สมบัติ เป็นที่พึ่งของครอบครัว- เกิดวันเสาร์ มีความก้าวหน้า มุ่งมั่นต่องาน อาภัพด้านคู่ แต่งานได้เป็นใหญ่ต่อไป


สำหรับผู้เกิดปีมะเมีย

ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีมะเมีย วิ่งไปข้างหน้า ต่อสู้ชีวิต ล้มลุกคลุกคลาน ภายหลังได้ดี ปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหา จะทำธุรกิจ ล้วนเสริมดวงคือปี.............1.ปีขาล (เสือ) เสริมการเงิน2.ปีมะแม (แพะ) เสริมความคิด3.ปีจอ (สุนัข) เสริมความรัก3.ปีจอ (สุนัข) เสริมความรักปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีชวด (หนู) อยู่ด้วยกันมักทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน ต้องแก้ด้วย ตั้งกิเลนเหยียบพระอาทิตย์ จะช่วยคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ และทำบุญด้วยการถวายต้นโพธิ์เงิน โพธิ์ทอง คู่พระประธาน จะเสริมดวงคู่ปีมะเมียตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ ตกอำนาจราชศักดิ์ จะมีอำนาจ มีคนยำเกรง มีอานุภาพมาก คนทั้งหลายนับถือ- เกิดวันจันทร์ มีบุญ ตกที่นั่งดี ต่อไปได้เป็นใหญ่- เกิดวันอังคาร ตกเหนื่อยยาก พึ่งตนเอง- เกิดวันพุธ ตกเหนื่อยยาก พึ่งตนเอง- เกิดวันพฤหัส มีเสน่ห์ต่อคนทั่วไป มักได้ดีเพราะวาจา ภายภาคหน้าอุดมแล
เกิดวันศุกร์ กายใจต้องดิ้นรน ได้พ้นเมื่อกลางคน- เกิดวันเสาร์ เหนื่อยยากเพื่อครอบครัว ต้องหาเลี้ยงครอบครัว หมั่นกตัญญู บุญจะส่งเสริมให้ได้ดี

สำหรับผู้เกิดปีมะแม
ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีมะแม มุ่งมั่นก้าวหน้า แต่บางคราเฉื่อยชา ควรยึดหลักขยันจะดีปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน จะทำธุรกิจร่วม หรือจะหุ้นส่วน ล้วนเสริมดวงคือปี.................1.ปีเถาะ (กระต่าย) เชื่อว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะเสริมความคิด2.ปีมะเมีย (ม้า) เชื่อว่าอยู่ด้วยแล้วรวย3.ปีกุน (หมู) เชื่อว่าอยู่ด้วยเสริมการเงินปีที่ห้าม หรือชงกันคือปี ปีฉลู (วัว) มักเป็นศัตรูกัน เนื่องจากอารมณ์แรงทั้งคู่ ควรหารูปปั้นม้าบิน มาประดับทางทิศตะวันออกเรื่องร้ายจะกลายเป็นดีและควรทำบุญด้วยช้างคู่ถวายพระพรหมเอราวัณ จะทำให้อยู่คู่กันได้ปีมะแมตามวันเกิด- เกิดวันอาทิตย์ ตกใช้เงินเก่ง ไม่ประหยัด หาเก่งใช้เก่ง ควรประหยัดจึงดีแล- เกิดวันจันทร์ มีปัญญา มีบุญเก่า บริวารมากมาย ภายหลังร่ำรวย- เกิดวันอังคาร ทำกินเหนื่อย หากขยันจะได้ดี- เกิดวันพุธ ตกเอาตัวรอด ไม่ยอมคน หากคบผู้รู้ทุกอย่างได้ดี- เกิดวันพฤหัส จะได้เป็นใหญ่ เป็นที่เกรงของคนทั่วไป- เกิดวันศุกร์ ตกพึ่งตนเอง ได้ดีเพราะตน- เกิดวันเสาร์ ตกสุขภาพไม่ดี แต่การงานดี เป็นที่พึ่งของผู้อื่น

สำหรับผู้เกิดปีวอก

ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีวอก เจรจาดี สิริตกที่ปาก มักเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน จะคบหา จะทำธุรกิจ ล้วนเสริมดวงคือคนปี............................1.ปีชวด (หนู) เสริมการงาน2.ปีมะโรง (มังกร) เสริมการเงิน3.ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมความคิดปีที่ห้ามคบ : หรือชงกันคือ ปีขาล เชื่อว่าทิฐิทั้งคู่ มักมีปากเสียง วุ่นวาย ควรแก้ : ด้วยการเอาแจกันขาว ดอกไม้แดง 9 ดอกไว้ทางทิศใต้ จะทำให้คลายทุกข์ และทำบุญด้วยบูชาพระประจำวันเกิดทั้งคู่ เสริมดวงคู่ อธิษฐานให้คลายทุกข์จะดีขึ้นปีวอกตามวันเกิด-เกิดวันอาทิตย์ ตกอำนาจ ต่อไปจะมียศ ปรากฏไกล-เกิดวันจันทร์ ตกพึ่งตนเอง จะเหนื่อยยาก ต้องพึ่งผู้รู้จึงได้ดี-เกิดวันอังคาร หมดตัวเพราะทุ่ม อย่างเสเพล ควรกตัญญูจึงได้ดี-เกิดวันพุธ เฉลียวฉลาด เป็นบัณฑิตเมื่ออดีต จะได้ดีเพราะความรู้ตนเกิดวันพฤหัส ตกปัญญามาก มีวิชาความรู้ มีบารมีญาณ ภายหลังได้ดีเพราะคนอุปถัมภ์-เกิดวันศุกร์ ตกบุญวาสนา จะได้เป็นใหญ่ภายหลัง-เกิดวันเสาร์ มักเสียรู้เพราะคำพูด ต้องคิดก่อนจึงทำ ภายหลังจึงได้ดี


สำหรับผู้เกิดปีระกา

ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีระกา ปากเจรจากล้า แต่พอทำจริงทำไม่ได้ (ขึ้นอยู่กับดวง)ปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน คบหา หุ้นส่วนธุรกิจ ล้วนเสริมดวงคือปี.............1.ปีฉลู (วัว) เสริมการเงิน2.ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมการงาน3.ปีมะโรง (มังกร) เสริมความรักปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีเถาะ (ปีกระต่าย) อยู่ด้วยกันแล้วทะเลาะ มีแต่ปัญหาเรื่องอารมณ์ ควรหารูปปั้นนาคราชไปตั้งทางทิศตะวันออก จะทำให้ปัญหาด้านอารมณ์คลี่คลายได้ และทำบุญไหว้เจ้าแม่กวนอิม ขอพรด้านชีวิตคู่จะอยู่ร่มเย็นขึ้นปีระกาตามวันเกิด-เกิดวันอาทิตย์ ตกบริวารมาก จะได้เป็นใหญ่กว่าใคร-เกิดวันจันทร์ ต้องพบอุปสรรค หลายครา จึงค่อยดี-เกิดวันอังคาร จิตใจเข้มแข็งได้ดีเพราะเพื่อน เสียใจเพราะเพื่อนต่อสู้จึงดี-เกิดวันพุธ ตกปัญญาได้ดี เพราะปัญญาตน-เกิดวันพฤหัส มีบุญเก่า ต่อไปมักมีทรัพย์สิน-เกิดวันศุกร์ ตกป่วยไข้ ควรทำบัตรสุขภาพไว้ ภายหลังจะดี-เกิดวันเสาร์ ต้องพึ่งตน ครั้งกลางคนจึงได้ดี


สำหรับผู้เกิดปีจอ
ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีจอ ตกฝีมือยอดเยี่ยม เจรจาเป็นเอก เป็นที่พึ่งของคนอื่นปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน คบค้า ทำธุรกิจ หุ้นส่วน ปีที่เสริมดวงคือปี...................1.ปีขาล (เสือ) เสริมการงาน2.ปีเถาะ (กระต่าย) เสริมความคิด3.ปีมะเมีย (ม้า) เสริมความสุขปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีมะโรง (มังกร) อยู่ด้วยกันมักไม่เข้าใจกันควรแก้ : ด้วยการหารูปปั้นเทพความรัก เจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเนศ มาตั้งหันไปทางทิศตะวันออก จะทำให้ความทุกข์ร้อนคลายลงไป หรือทำบุญโดยนำเทียนไปให้เจ้าอาวาสปลุกเสกให้รักกัน แล้วมาไว้บนหิ้งพระจะดีขึ้นปีจอตามวันเกิด-เกิดวันอาทิตย์ ต้องขยันจึงได้ดี ต่อไปมีคนรักใคร่ให้ได้อยู่ด้วยกัน-เกิดวันจันทร์ ตกมั่งมี ต่อไปมีคนนับถือ-เกิดวันอังคาร ให้คิดรอบคอบ เพเสียหาย หากคิดก่อนทำ ภายหลังจะได้ดี-เกิดวันพุธ ตกสมบัติ ต่อไปมีทุนทรัพย์ เป็นที่พึ่งได้-เกิดวันพฤหัส มักขาดสติ เพราะเพื่อนฝูง ควรหมั่นกตัญญูทุกสิ่งจะดี ต่อไปมีทุกสิ่งแล-เกิดวันศุกร์ ตกเศรษฐี ต่อไปมั่งมีเพราะครอบครัวตน-เกิดวันเสาร์ เจ้าชู้หลาย ได้เสียไม่ว่า มีคู่หลายคน ต่อไปมีคนช่วยราะเชื่อคนงาย จะทำให้


สำหรับผู้เกิดปีกุน
ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่าปีกุน ชอบหากิน วิ่งเต้น ใช้ปาก รักบ้าน ต่อไปได้ดี เพราะขนขวาย (อยู่ที่ดวง)ปีที่เสริมดวงจะแต่งงาน จะร่วมทำธุรกิจ จะหุ้นส่วนจะให้ช่วยเหลือ ล้วนเสริมดวงคือปี...........1.ปีขาล (เสือ) คบแล้วพารวย หรือมีบุตรเกิดปีนี้จะทำให้พ่อแม่รวยหรือหารูปเสือมาไว้ที่บ้าน ทางทิศตะวันออกจะเสริมดวง2ปีเถาะ (กระต่าย) เสริมการเงิน3.ปีมะแม (แพะ) เสริมความคิดปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีมะเส็ง (งูเล็ก) อยู่ด้วยกันแล้ววุ่นวาย ไม่ยอมกัน เป็นศัตรูกัน ควรแก้ด้วยการ มีรูปปลาดอกบัวติดผนังทางทิศเหนือจะคลายทุกข์ได้ หรือทำบุญ ปล่อยสัตว์ลงน้ำ และบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม จะทำให้ร่มเย็นเป็นสุขขึ้นปีกุนตามวันเกิด-เกิดวันอาทิตย์ ชีวิตมีผู้อุปถัมภ์ ประเสริฐนัก วาสนาดี-เกิดวันจันทร์ เจ้าความคิด ขี้กังวล ทุกข์ครอบครัว หากใช้ปัญญาจะดีแล-เกิดวันอังคาร ชีวิตมีผู้ช่วย มหาอุดม ต่อไปมั่งมีนักแล-เกิดวันพุธ ต้องดิ้นรน เป็นทุกข์ ระวังสุขภาพ ต้องใช้ปัญญาชีวิตนำพาพ้นทุกข์เอย-เกิดวันพฤหัส ชีวิตวิ่งเต้น จะเจอผู้อุปถัมภ์ ภายหลังได้ดี-เกิดวันศุกร์ ใช้ปัญญา มุ่งมั่น ขยัน ต่อไปได้ดีเกิดวันเสาร์ ต่อไปได้เป็นใหญ่ เพราะตกมั่นคง บริวารมาก

ดูดวง เกย์ ตุ๊ด ทอมดี้



การเสริมดวงวันเกิด

สำหรับผู้เกิดวันอาทิตย์
การเสริมดวง ควรมีรูปปั้น พระยาครุฑบูชา หรือรูปสิงห์ เชื่อว่าจะเสริมดวง ให้มีเดชอำนาจ ชนะศัตรูหมู่มาร หรือหาครุฑมาห้อยคอ หรือบูชาไว้ประจำบ้าน จะทำให้ชีวิตรุ่งเรืองขึ้น-อัญมณีเสริมราศี คือ แร่หินคราม ทับทิม หินสีแดง-คบคนทำธุรกิจดี คนเกิดวันพฤหัส ห้ามวันอังคาร-พระเทพบูชาเสริมดวง คือพระปางถวายเนตร พระแก้ว รัชกาลที่ 5 พระแม่อุมาเทวี พระโพธิสัตว์กวนอิม-ถวายเครื่องสักการะเสริมดวง ฉัตรคู่ ข้าวตอกดอกไม้ กุหลาบชมพู ส้ม-ทำบุญเสริมดวงท่าน ปล่อยสัตว์ลงน้ำ วันเด ข้างขึ้น 5-15 ค่ำ เชื่อว่าปล่อยทุกข์ปล่อยโศกลงแม่นำเจ้าพระยา ทำให้คลายทุกข์ได้-ปลูกต้นไม้เสริมดวง ต้นมะพร้าว ขิงข่า ว่านมหาลาภ

สำหรับผู้เกิดวันจันทร์
ลิขิตนาม พยัคฆ์เสือสิงห์ ธาตุไม้ จุติจากนครนาคราช-การเสริมดวง ควรมีรูปปั้น เสือ หรือสิงห์ ประดับไว้ที่บ้านหรือที่ทำงาน จะทำให้ก้าวหน้าขึ้น และแก้เคล็ดเรื่องเลวร้ายได้ หรือหารูปปั้นสิงห์โตคาบดาบ หรือรูปปั้นเสือทอง มาตั้ง จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น-อัญมณี เสริมราศี คือ ไลปะการัง ทอง เพชร-คบคนที่เสริมดวง คือ คนเกิดวันพะ ศุกร์ ห้ามวันพฤหัส-ถวายเครื่องสักการะเสริมดวง คือดอกบัวขาว แอปเปิ้ลบูชาพระและเทพ-พระเทพบูชาเสริมดวง คือ หลวงปู่โต ปางห้ามญาติ พระโพธิสัตว์ กวนอิม พระแม่ลักษมี ปู่ฤาษี-ทำบุญเสริมดวงท่าน ให้ไปนมัสการขอพรที่วัดแขก สีลม หรือ เทวสถาน ไปวันพฤหัส ข้างขึ้น 7-15 ค่ำ ไปขอพรขอให้ชีวิตรุ่งเรืองขึ้น-ปลูกต้นไม้เสริมดวง ต้นยอ โหรพา ว่านมหาหงส์








สำหรับผู้เกิดวันอังคาร
ลิขิตนาม สิงหราช ธาตุเหล็ก-การเสริมดวง ควรมีรูปปั้นราชสีห์ขลิบทอง ตั้งหรือประดับไว้ทางทิศตะวันออกเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตมั่นคงขึ้น เพราะว่าวันอังคารดวงแข็ง หากมีราชสิงห์ไว้ดวงจะดีขึ้น มีอำนาจขึ้น-อัญมณีเสริมราศีคือ แร่เหล็ก เพชร พวงชมพู มรกต-คบคนที่เสริมดวงคือ คนเกิดวันศุกร์ ห้ามวันอาทิตย์-สิ่งศักดิ์สิทธิ์บูชาเสริมดวงคือ ฤาษี องค์พรหม รัชกาลที่ 5-ถวายเครื่องสักการะเสริมดวงคือ เมี่ยงหมาก ดอกไม้ชมพู่ ใบมะม่วง-การเสริมดวงท่าน ไปนมัสการขอพรที่วัดโพธิ์ วันอังคารข้างขึ้น 7-15 ค่ำ มีพระประจำวันเกิดท่าน จะทำให้ชีวิตดีขึ้น-ปลูกต้นไม้เสริมดวงท่าน ปลูกแตงโม ว่านมหานิยม

สำหรับผู้เกิดวันพุธ
ลิขิตนาม สุนัขธาตุเถ้า-การเสริมดวง ควรมีรูปปั้น สุนัขคู่ หรือ ปลาอุ้มมุก ไว้ที่บ้านเพราะจะทำให้มีความร่มเย็นและสมหวังในชีวิต เพราะเชื่อว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่เป็นเหมือนคนรู้ใจ และทำให้คุณก้าวหน้าได้-อัญมณีเสริมราศี คือ มรกต โอปอล์ หยก-คบคนที่เสริมดวง คือ คนเกิดวันจันทร์เป็นคู่มิตร ห้ามวันศุกร์-สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมดวง พระปางอุ้มบาตร หลวงปู่โต พระแก้วมรกต-ถวายเครื่องสักการะเสริมดวง ข้าวสวย ส้ม ใบขนุน-ทำบุญเสริมดวงท่าน ถวายนีออน ในวันเกิดข้างขึ้น 5-15 ค่ำ เสริมแสงสว่างให้ชีวิต อธิษฐานขอพระเสริมความรุ่งเรืองในชีวิต-ปลูกต้นไม้เสริมดวง ต้นขนุน กุหลาบ ว่านสี่ทิศ






สำหรับผู้เกิดวันพุธกลางคืน ราหู
-การเสริมดวง ควรบูชาพญาครุฑ หรือ ราหู จะทำให้ร่ำรวยขึ้นและไหว้ของดำทุกวันพุธ เชื่อว่าจะทำให้มีโชคลาภมากขึ้น ร่ำรวยขึ้น-อัญมณีเสริมดวง คือ โกเมน หินดำ-คบคนที่เสริมดวง คือ วันเสาร์ วันพุธ ห้ามวันพฤหัส-บูชาพระเทพเสริมดวง คือ พระราหู ครุฑ รัชกาลที่ 5 พระนารายณ์-ถวายเครื่องสักการะเสริมบารมี ข้าวสวย ดอกไม้เขียว ใบขนุน แอปเปิ้ล นม น้ำ-ถ้าเข้าเสวยราหู ของดำ 8 อย่าง ดอกไม้ดำ ใบยอ ขนุน กุหลาบ ไข่เยี่ยวม้า อื่น ๆ สีดำ-ทำบุญเสริมดวง ไหว้พระราหู ทุกวันพุธ ขอพร-ต้นไม้เสริมดวง กุหลาบ ว่านธรณีสาร

สำหรับผู้เกิดวันพฤหัส
ลิขิตนาม หนู จุติจากสรวงสวรรค์ สร้างจากฤาษี 19 ตน-การเสริมดวง ท่านควรมีรูปปั้น หนูขลิบทองคู่ ตั้งหรือแขวนไว้ที่บ้านหรือที่ทำงาน จะเสริมดวงด้าน ความสุข ความสมหวังในชีวิตได้ เพราะเชื่อว่า หนู เป็นสัตว์ที่ให้ชีวิตใหม่ ๆ ได้-อัญมณีเสริมราศี คือ เพชร ทอง ลูกแก้ว บุษราคัม พลอยแดง-คบคนเสริมดวงชีวิต คือ คนเกิดวันอาทิตย์ ศุกร์ ห้ามวันจันทร์-บูชาด้วยเครื่องสักการะเสริมดวง คือ ข้าวตอกดอกไม้ ใบขนุน ดอกไม้ สีเมฆ ใบกล้วย ฟักทองพระบูชาเสริมดวง พระปางพุทธชินราช ปู่ฤาษี พระแม่อุมาเทวี พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 พระโพธิสัตว์กวนอิม-ทำบุญเสริมดวงท่าน ไปปฏิบัติธรรม ปีละครั้งจะเสริมชีวิตดีขึ้น-ปลูกต้นไม้เสริมดวง ว่านเพชรนารายณ์ ไผ่กวนอิม







สำหรับผู้เกิดวันศุกร์
ลิขิตนาม หนูทอง-การเสริมดวง ควรมีรูปปั้น หนู หรืองูใหญ่ ตั้งหรือประดับไว้ที่บ้าน จะทำให้ชีวิตท่านก้าวหน้าขึ้น-อัญมณีเสริมราศี คือ ทอง โมรา-คบคนที่เสริมดวง คือ คนเกิดวันอังคาร วันศุกร์ ห้ามวันเสาร์ วันอื่น ไม่เป็นไร-พระเทพเสริมดวง ปางรำพึง พระพุทธชินราช รัชกาลที่ 5 พระโพธิสัตว์ กวนอิม พระแม่อุมาเทวี พระแม่ลักษมี-ถวายเครื่องสักการะเสริมดวง คือ ฉัตรคู่พระ ข้าวตอกดอกไม้ เมี่ยงหมาก ดอกมะลิ กล้วย ดอกไม้เหลือง ใบเงิน ใบทอง-ทำบุญเสริมดวง ปฏิบัติธรรมตามลมหายใจ ไม่ใช่ตามสามี จะทำให้จิตสงบ ได้บุญมาก-ปลูกต้นไม้เสริมดวง กุหลาบ ว่านเศรษฐีเรือนกลาง

สำหรับผู้เกิดวันเสาร์
ลิขิตนาม นาคา มีฤทธิ์มาก-การเสริมดวง ควรบูชา พญานาคราช หรือมีรูปพญานาคจะทำให้มีเดฃ มีอำนาจมากดุจดั่งราชสีห์ครองเมือง เชื่อว่าคนเกิดวันเสาร์ มีนาคราชคุ้ม ควรบูชานาคราชชีวิตจะร่ำรวยขึ้น-อัญมณีเสริมดวง คือ นิลดำ ทับทิม หินดำ-คบคนเสริมดวง คนเกิดวันพุธกลางคืน พฤหัส ห้ามวันศุกร์-บูชาพระเทพเสริมบารมี ปางนาคปรก แก้ว รัชกาลที่ 5 พระนารายณ์ พระพรหม-ถวายเครื่องสักการะ คือ กล้วย น้ำอบ ดอกไม้ดำ ใบมะตูม-ทำบุญเสริมดวง บูชาเทพทุกวันเสาร์ จะทำชีวิตรุ่งเรือง อยากได้สิ่งใดก็ได้-ปลูกต้นไม้ ต้นขนุน ต้นมหากาฬ ไผ่มงคล







ดูดวง ราศีธนู


ราศีธนู ( 16 ธ.ค. – 15 ม.ค.)
อุปนิสัย กระตือรือร้น ชอบวางแผนชอบคิดโครงการใหญ่ รักการผจญภัย
นิสัยรวม อดทน มองโลกในแง่ดี ใจกว้าง เสียสละ
ข้อเสีย ทำอะไรไม่ค่อยยั้งคิด เอาแต่ใจ พลัดวันประกันพรุ่ง
สร้างพลัง เต้นรำ ออกกำลังกาย
สัตว์ หมา แมว
อัญมณี ไพฑูรย์ มรกต
สี ขาว ม่วง เขียวน้ำเงิน
ดอกไม้ พุด ไทร
วัน พฤหัสบดี
ทิศ ใต้ ตะวันตกเฉียงใต้
โลหะ ดีบุก
เลขดี 1 3 5
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีแดง ม่วง ส้ม แตงกวาดีต่อร่างกายคุณ เลข 1
อักษร J , S สวนสาธารณะ แว่นกันแดด เสื้อไหมพรม กุ้งชุบแป้งทอด เสื้อไหมพรม
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ ครู อาจารย์ ข้าราชการ งานการเมือง วันจันทร์ งานประดิษฐ์ กิจการต่างประเทศ นักการทูต วันอังคาร นักกฎหมาย การแพทย์ นักวิชาการ บัญชี วันพุธ ครู อาจารย์ ช่างภาพ งานด้านอาหาร วันพฤหัสบดี ครู อาจารย์ กิจการโรงแรม ร้านอาหาร วันศุกร์ งานบันเทิง งานโรงแรม ตัดเย็บเสื้อผ้า วันเสาร์ นักการเมือง นักบริหาร การปกครอง


ดูดวง ราศ๊พิจิก



ราศีพิจิก ( 16 พ.ย.-15 ธ.ค.)
อุปนิสัย มุ่งมั่นทำจริง ชอบใจอารมณ์ส่วนตัวหรือลางสังหรณ์ในการตัดสินใจแก้ปัญหา ชอบเรื่องลึกลับหรือไสยศาสตร์ มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น
นิสัยรวม เป็นคนลึกลับ ช่างวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น
ข้อเสีย จองหอง อ่อนไหวง่าย บ้าอำนาจ
สร้างพลัง ว่ายน้ำ ชมละคร
สัตว์ กิ้งก่า
อัญมณี ทับทิม เทอร์คอยส์ บุษราคัม
สี เขียวแก่ แดงแก่ น้ำเงิน
ดอกไม้ ไอวี่ กระบองเพชร
วัน อังคาร
ทิศ ตะะวันตกเฉียงใต้
โลหะ เหล็ก
เลขดี 3 9
เครื่องดื่ม รสเปรี้ยว เช่น มะนาว เหมาะกับคุณ
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีดำ เทา ไข่เจียวดีต่อร่างกายคุณ เลข 5
ตัวอักษร E , W ห้องสมุด ที่คาดผม กระโปรงพลีท
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ งานช่าง กิจการทางเรือ ขายอาหารทะเล วันจันทร์ งานบันเทิง งานแสดง ขายของสวยงาม งานทัวร์ นายแบบนางแบบ วันอังคาร งานช่าง ทำอู่ซ่อมรถ วันพุธ งานช่าง เสริมสวย ทำอู่ซ่อมรถ วันพฤหัสบดี กฎหมาย ทนายความ บัญชี วันศุกร์งานบันเทิง การแสดง วันเสาร์ ทหาร ตำรวจ



ดูดวง ราศีตุล


ราศีตุล ( 16 ต.ค.-15 พ.ย.)
อุปนิสัย ชอบศึกษาหาความรู้ มีศิลปะในการพูด สื่อสารดี รักความยุติธรรม ช่างคิดช่างฝันและโรแมนติก
นิสัยรวม อัธยาศัยดี ไตร่ตรอง มีเสน่ห์
ข้อเสีย โลเล ฝันเฟื่อง ทำตามอำเภอใจ
สร้างพลัง ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ
สัตว์ ช้าง สุนัข
อัญมณี มรกต โอปอล
สี น้ำเงิน ม่วง เขียว ชมพู
ดอกไม้ ว่านหางจระเข้ กุหลาบ
วัน ศุกร์
ทิศ ตะวันตก
โลหะ ทองแดง ทองคำขาว
ตัวเลข 0 6 9
เครื่องดื่มที่เหมาะ น้ำผลไม้ต่างๆ
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีเขียว และเหลือง ฟ้า สตรอเบอร์รี่ดีต่อคุณ
เลข 6 อักษร F , O ระเบียง เข็มกลัดรูปดอกไม้ กลิ่นวานิลลา
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ งานโรงแรม ทัวร์ ร้านอาหาร วันจันทร์ ค้าเพชร พลอย ของสวยงาม เสื้อผ้า เสริมสวย วันอังคาร นักแสดง นางแบบนายแบบ ดารา นางงาม วันพุธ งานบันเทิง เบื้องหลังงานบันเทิง ประชาสัมพันธ์ วันพฤหัสบดี ครู อาจารย์ โรงแรม วันศุกร์ธุรกิจของสวยงาม ราชการ ตุลาการ วันเสาร์
งานประดิษฐ์ ขายของโบราณ ค้าขาย อาหาร


ราศีกันย์ ( 16 ก.ย.-15 ต.ค.)
อุปนิสัย จริงจังกับชีวิต ชอบวิพากษ์วิจารณ์ ชอบใช้เหตุผล เจ้าระเบียบ ขี้วิตก
นิสัยรวม ช่างจด ช่างจำ ช่างวิจารณ์
ข้อเสีย ขี้บ่น ชอบบังคับ เรียกร้อง เจ้าระเบียบ ขี้กังวล
สร้างพลัง นวด ออกกำลัง คลายเครียดได้
สัตว์ แมว กระต่าย
อัญมณี ไข่มุก
สี น้ำเงิน ชมพู
ดอกไม้ ดอกส้ม
วัน ศุกร์
ทิศ ตะวันตก
โลหะ ทองแดง
เลขดี 5 8
เครื่องดื่ม น้ำสมุนไพร รังนก โสม
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีน้ำเงิน หรือฟ้า สีเนื้อ อาหารที่ดีคือมะนาว
เลข 0 อักษร A ,S พิซซ่า ชั้นใต้ดิน กางเขน เสื้อยีนส์ ดินสอ สายสร้อยไม้กางเขน
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ ครู อาจารย์ งานประดิษฐ์ ทุกชนิด วันจันทร์อประชาสัมพันธ์ ติดต่องานทั่วไป วันอังคาร ตำรวจ พยาบาล วันพุธ งานประดิษฐ์ ส่งออก ค้าขาย อาจารย์ วันพฤหัสบดี ครู อาจารย์ วันศุกร์ นักพูด นักเขียน วันเสาร์ นักการเมือง การทูต




ดูดวง ราศีสิงห์


ราศีสิงห์ (16 ส.ค.-15 ก.ย.)
อุปนิสัย มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มองโลกในแง่ดี ใจกว้าง แน่วแน่ ประสบความสำเร็จแน่ ถ้าแสดงออกในทางความคิดสร้างสรรค์
นิสัยรวม เชื่อมั่นตนเอง เป็นผู้นำ และแน่วแน่
ข้อเสีย หัวรั้น อ่อนไหวง่าย สุรุ่ยสุร่ายและขี้หึง
สร้างพลัง หาเกมเล่นคลายเครียด ดูหนังตลก ฟังเพลง
สัตว์ สิงโต
อัญมณี ทับทิม
สี เหลือง ทอง ส้ม ม่วง
ดอกไม้ ทานตะวัน
วัน จันทร์
ทิศ ตะวันออก
โลหะ ทองคำ
เลขดี 1 3 7
เครื่องดื่ม น้ำดอกคำฝอย จับเลี้ยง ดีกับคุณ
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สี แดง ส้ม และทอง ลูกพลัม ส้มทุกชนิด เลข 3 อักษร K,U
ขนมไพลูกพีช สวนสัตว์ ดอกกุหลาบแห้ง เสื้อแจ็คเก็ต
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ รับราชการ ประชาสัมพันธ์ วันจันทร์ บริหารแรงงาน การเมือง วันอังคาร ทหาร นักปกครอง วันพุธ ครู อาจารย์ งานบริหาร บริการ ตำรวจ นักสืบ วันพฤหัสบดี ครูอาจารย์ นักบริหาร วันศุกร์ หัวหน้างาน การเมือง เศรษฐกิจ วันเสาร์ เครื่องจักร ส่งออก งานไฟฟ้า เกษตรกรรมทุกอย่าง




ดูดวง ราศีกรกฎ


ราศีกรกฎ (16 ก.ค.-15 ส.ค.)
อุปนิสัย มีความคิดสร้างสรรค์ ขี้กังวนโดยไม่มีเหตุผล รักครอบครัว มีความสามรถหรือญาณพิเศษในการแก้ไขปัญหา
นิสัยรวม อดทน มีความคิดสร้างสรรค์ มีลางสังหรณ์แม่นยำ เจ้าความคิด
ข้อเสีย ขี้ขลาด อ่อนไหวง่าย เรียกร้องความสนใจ
สร้างพลัง ดูหนังตลก
สัตว์ ปู เต่า
อัญมณี โมรา ไข่มุก แก้ว
สี เขียวอ่อน คราม
ดอกไม้ มะลิ บัว
วัน ศุกร์
ทิศ เหนือ
โลหะ เงิน
เลขดี 2 3 5
เครื่องดื่ม กาแฟ ชา ร้อนและเย็น
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีขาว ม่วงอ่อน สีฟ้าน้ำทะเล สาหร่ายทะเลดีต่อร่างกายคุณ
เลข 8 อักษร H,N กระจกแบบมีด้ามถือ บริเวณลานวัด เข็มขัดหนัง และเสื้อคอโปโล

อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ การปกครอง งานบริหาร วันจันทร์ แพทย์ พยาบาล เปิดร้านขายยา สปา วันอังคาร ดารา นางแบบนายแบบ แพทย์เสริมความงาม วันพุธ ธุรกิจทางเรือ ค้าขายอาหารส่งออก งานต่างประเทศ วันพฤหัสบดี ครู อาจารย์ ธุรกิจจัดสรรบ้านที่ดิน นายหน้าที่ดิน วันศุกร์ ขายเครื่องประดับ ของสวยงาม วันเสาร์ แพทย์ พยาบาล ร้านขายยา

ดูดวง ราศีเมถุน


ราศีเมถุน (16 มิ.ย.-15 ก.ค.)
อุปนิสัย ชอบการติดต่อสื่อสาร ชอบพูดชอบคุย ช่างคิดช่างทำ มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น สนใจสิ่งต่างๆที่ทันสมัย ปรับตัวเข้าหาสิ่งแวดล้อมได้ดี
นิสัยรวม ช่างเจรจา อารมณ์ขัน เจ้าเสน่ห์
ข้อเสีย ช่างติเตียน เจ้าอารมณ์ ฟุ้งฟาน เจ้าชู้
สร้างพลัง ดูหนังตลก หรือฟังเพลง พูดคุยปรับทุกข์
สัตว์ นก
อัญมณี นิล หยก
สี ส้ม ขาว เหลือง
ดอกไม้ กล้วยไม้ พลับพลึง
วัน พุธ
ทิศ เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ
โลหะ ปรอท
เลขดี 1 4 5
เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ไวท์
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีเหลือง น้ำเงิน เขียว ผักกาดหอมทำให้คุณได้รับวิตามินซี
เลข 4 อักษร D,M รถแข่ง ดาดฟ้า เสื้อสูท อาคาร นาฬิกาปลุก

อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ ครู อาจารย์ งานโฆษณา การเมือง วันจันทร์ ประขาสัมพันธ์ วันอังคาร นักพูด โต้วาที วันพุธ งานสื่อสาร สิ่งพิมพ์ วันพฤหัสบดี ครู อาจารย์ นักวิชาการ วันศุกร์นักร้อง นักพูด นักพากย์ ประชาสัมพันธ์ วันเสาร์ การเมือง นักการทูต นักพูด การปกครอง





ราศีพฤษภ (16 พ.ค.-15 มิ.ย.)
อุปนิสัย มีความจริงจังต่อชีวิต เชื่อถือได้ ชอบครุ่นคิด ต้องการความมั่นของชีวิต รักธรรมชาติ พึ่งพอใจในสิ่งที่ตนเป็นอยู่
นิสัยรวม มุ่งมั่น จริงจังต่อชีวิต พุดจริงทำจริง เจ้าความคิด
ข้อเสีย เจ้าอารมณ์ จู่จี้ขี้บ่น เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่
สร้างพลัง ยามเครียดดูหนังและฟังเพลงเล่นเกม กินอาหารที่ชอบ เที่ยวธรรมชาติ
สัตว์ วัว
อัญมณี ไข่มุก บุษราคัม
สี น้ำตาล เขียว ชมพู ฟ้า
ดอกไม้ ลิลลี่
วัน ศุกร์
ทิศ ตะวันออกเฉียงใต้
โลหะ ทองแดง
เลขดี 4 6 9
เครื่องดื่ม น้ำมะตูม ตระไคร้และ เก็กฮวย ดีแก่คุณ
สิ่งนำโชคคือ ของใช้ที่มีสีฟ้า ชมพู ครีม ผักชีทำให้คุณแข็งแรง เลข 7
อักษร G,Y สลัดซีฟู้ด หอประชุมแสดงคอนเสิรต์ กระโปรง

อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ งานราชการ นักการเมือง การปกครอง วันจันทร์ ค้าขายเครื่องประดับ เปิดร้านทอง วันอังคาร งานบันเทิง งานแสดง วันพุธ ตัดเสื้อผ้า ช่างเสริมสวย วันพฤหัสบดี ครู อาจารย์ ค้าขาย ขายอาหารเครื่องดื่ม วันศุกร์ งานธนาคาร วันเสาร์ ธุรกิจส่วนตัว งานรักษาทรัพย์สิน ประกัน นายหน้า







ดูดวง ราศ๊เมษ

ราศีเมษ (16 เม.ย.-15 พ.ค.)
อุปนิสัย มีความเป็นผู้นำ เชื่อมั่นในตัวเองสูง เป็นคนกล้าสู้ กล้าตัดสินใจ
นิสัยรวม กล้าได้กล้าเสีย ชอบความท้าทาย เชื่อมั่นในตนเอง เข้มแข็ง
ข้อเสีย ดื้อรั้น ใจร้อน ไม่รู้กาลเทศะ
สร้างพลัง ยามเครียดดูหนังและฟังเพลงเล่นเกม ดีที่สุด หรือนั่งเงียบ หายใจลึกๆ คิดแก้ปัญหาจะทำให้ลุล่วงได้
สัตว์ แกะ สุนัข
อัญมณี เพชร ทับทิม
สี แดงแก่ ดำ ขาว เทา
ดอกไม้ ลิลลี่ เบญจมาศ
วัน อังคาร
ทิศ ตะวันออก
โลหะ เหล็ก
เลขดี 3 4 9
เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ปั่น ทุกอย่างดีต่อคุณ
สิ่งนำโชคคือ ของกระจุกกระจิกสีส้ม แดง และทอง
อาหารที่ดีคือมะเขือเทศ เลข 9 อักษร I,R ดอกเดซี่ ผ้าพันคอ กางเกงสามส่วน

อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ รับราชการทหาร ตำรวจ วันจันทร์ นักแสดง งานบันเทิง วันอังคาร ค้าขาย อาวุธ ของมีคม วันพุธ ตำรวจ นักสืบ ทหาร วันพฤหัสบดี นักกฎหมาย ทนายความ วันศุกร์ ศิลปิน นายแบบ นางแบบ วันเสาร์ วิศวกร ทหาร ตำรวจ นักการเมือง

ดูดวง ราศ๊มีน


ราศีมีน (16 มี.ค.-15 เม.ย.)
อุปนิสัย เป็นคนมีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปัน คิดเก่ง ช่างฝัน รักสวยรักงาม มีความสามารถรอบด้าน
นิสัยรวม รักศาสนา มีความจงรักภักดี มีญาณพิเศษ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ข้อเสีย ใจอ่อน อ่อนแอ รวนเร และขี้เกียจ
สร้างพลัง การนั่งสมาธิ
สัตว์ ปลา
อัญมณี ไข่มุก อะมีทีสต์ งาช้าง
สี ฟ้า เขียว เขียวอ่อน นวล สีครีม
ดอกไม้ ดอกบัว ดอกฟอเกตมีนอต
วัน พฤหัสบดี
ทิศ ตะวันออกเฉียงใต้
โลหะ ดีบุก
เลขดี 2 5 7
เครื่องดื่ม น้ำผักผลไม้ดีกับคุณ
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีฟ้า น้ำเงิน สีอ่อนๆ องุ่นทำให้สุขภาพคุณดี เลข 6 อักษร F , O
น้ำผลไม้สด สวนดอกไม้ ภาพถ่ายบรรพบุรุษ หมอนเป็นสีๆ โบว์ หรือริบบิ้น
เสื้อกันหนาวลายดอกไม้
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ ครู อาจารย์ นักบริหาร วันจันทร์ ปล่อยเงินกู้ กิจการที่ปรึกษา ทนาย การเมือง เศรษฐกิจ วันอังคาร กีฬา งานแข่งขัน วันพุธ การเงิน ธนาคาร ประชาสัมพันธ์ งานบันเทิง วันพฤหัสบดี ทำธุรกิจส่วนตัว งานธนาคาร วันศุกร์ งานบันเทิง งานที่ต้องเสี่ยง วันเสาร์ การเมือง บริหาร

ดูดวง ราศ๊กุมภ์


ราศีกุมภ์ (16 ก.พ.-15 มี.ค.)
อุปนิสัย ชอบศึกษาในหลายๆเรื่องและคิดถึงอนาคต คิดเรื่องแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ชอบพัฒนาความคิด จึงมีเพื่อนมากมายให้ความร่วมมือ
นิสัยรวม ก้าวทันโลก เป็นมิตรกับทุกคน น่าเชื่อถือมีเหตุผล ซื่อสัตย์
ข้อเสีย นักฝัน ช่างติเตียน ลำเอียงไม่ค่อยยอมรับความเป็นจริง
สร้างพลัง เวลาเครียดให้นั่งสมาธิ
สัตว์ นกอินทรีย์ นกยูง
อัญมณี ไพลิน อะเมทีสต์
สี เหลืองอ่อน เขียวม่วง
ดอกไม้ ดอกเชอรี่ มะกอก
วัน เสาร์
ทิศ ตะวันออกเฉียงใต้
โลหะ ตะกั่ว
เลขดี 0 4 7
เครื่องดื่ม น้ำส้ม เสาวรสและน้ำแอปเปิ้ล
สิ่งนำโชคคือ ของใช้สีฟ้า เขียว เหลือง อาหารนำโชคคือ สลัดผัก เลข 5

อักษร E , W สถานี เป้ที่เป็นทรงกระเป๋าเอกสาร แหวนอัญมณี สีดำ และกระโปรงยีนส์
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ งานท่องเที่ยว การเงิน ธนาคาร งานต่างประเทศ วันจันทร์ ปล่อยเงินกู้ กิจการที่ปรึกษา การเมือง ทัวร์ วันอังคาร การกีฬา ค้าขาย วันพุธ การเงิน ธนาคาร ประชาสัมพันธ์ งานบันเทิง วันพฤหัสบดี ธนาคาร ทำธุรกิจ วันศุกร์ งานที่ต้องเสี่ยง งานบันเทิง วันเสาร์ การเมือง บริหาร

โดย อ.อาร์ม

ดูดวงราศีมังกร


ดวง 12 ราศี เสริมบารมี
ราศีมังกร (16 ม.ค.-15 ก.พ.)
อุปนิสัย นิยมสร้างตนเอง มุมานะ เป็นคนจริงจังกับชีวิต ระมัดระวังตัวดี
นิสัยรวม พูดจริงทำจริง ไม่ย่อท้ออดทนและมั่นคง
ข้อเสีย เครียดง่าย เศร้าง่าย หลงตัวเอง ช่างติเตียน
สร้างพลัง การเขียน งานปั้น ดูหนัง หรือจัดรูปถ่ายตัวเอง
เครื่องดื่ม น้ำหวานสีต่างๆ
สัตว์ แพะ ลา สุนัข
อัญมณี โกเมน นิล
สี เทา ดำ แดง ฟ้า
ดอกไม้ หลิว สน ฝิ่น
วัน อาทิตย์
ทิศ ใต้
โลหะ ตะกั่ว
เลขดี 7 8 9
สิ่งนำโชคคือ ของใช้กระจุกกระจิกสีดำ เทา น้ำตาลหม่น ถ้าอยากให้ชีวิตมีความสุขให้รับประทานหัวหอมเป็นประจำ หัวหอมดีต่อคุณ อักษร K , T สร้อยคอจี้รูปดาว ต่างหูมุก ตุ๊กตาหุ่นยนต์ สถานที่ริมทะเล
กางเกงตัวหลวมพอง
อาชีพที่เหมาะ วันอาทิตย์ งานช่าง วิศวกร งานไฟฟ้า วันจันทร์ ขนส่ง ทำทัวร์
วันอังคาร งานส่วนตัว ค้าขาย วันพุธ ตำรวจ สืบสวน สอบสวน วันพฤหัสบดี ค้าของเก่า ของโบราณ
วันศุกร์ งานเกษตร สินเชื่อ ธนาคาร วันเสาร์ งานเกษตร วิศวกร
















วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

ดูดวง เขม่น


ตำรา " เขม่น "

1 เขม่นหลังตาขวา ท่านว่า จะมีคนนำลาภมาให้

2 เขม่นหลังตาซ้าย ท่านว่า ผู้หญิงจะบ่นถึง

3 เขม่นกึ่งกลางตา ท่านว่า จะมีคนมาต้องการพบ

4 เขม่นตาซ้ายเืบื้องต่ำ ท่านว่า จะมีคนพูดให้ร้ายใส่ความ

5 เขม่นจมูก ท่านว่า จะถูกคนอื่นพาลหาเรื่องราว

6 เขม่นหูขวา ท่านว่า จะได้รับข่าวร้าย

7 เขม่นหูซ้าย ท่านว่า จะมีลาภใน 3 วัน 7 วัน

8 เขม่นรักแร้ข้างขวา ท่านว่า จะเกิดความเดือดร้อน

9 เขม่นรักแร้ข้างซ้าย ท่านว่่า จะมีลาภ ข้าวของเงินทอง

10 เขม่นข้างหลัง ท่านว่า จะได้เป็นข้าท่าน

11 เขม่นข้างหน้าอก ท่านว่า จะพบต่างเพศที่น่ารัก

12 เขม่นริมฝีปากข้างขวา ท่านว่า จะมีลาภจากต่างเพศ

13 เขม่นริมฝีปากข้างซ้าย ท่านว่า จะเกิดปากเสียงทะเลาะวิวาท

14 เขม่นริมฝีปากตรงกลาง ท่านว่า จะมีลาภทางอาหารการกิน

15 เขม่นริมฝีปากบน ท่านว่า จะมีคนเชิญไปกินเลี้ยง

16 เขม่นริมฝีปากล่าง ท่านว่า จะได้รับข่าวดีจากต่างเพศ

17 เขม่นสีข้างขวา ท่านว่า จะมีโชคลาภพึงพอใจ

18 เขม่นสีข้างซ้าย ท่านว่า จะได้ลาภจากเพศตรงข้าม

19 เขม่นที่สะเอวข้างขวา ท่านว่า จะมีเรื่องเดือดร้อนในการเงิน

20 เขม่นที่สะเอวข้างซ้าย ท่านว่า จะไม่ค่อยสบายกายและใจ

21 เขม่นที่ขาอ่อนขวา ท่านว่า จะทะเลาะกับเพศตรงข้าม

22 เขม่นที่ขาอ่อนซ้าย ท่านว่่า จะทะเลาะกับเพศเดียวกัน

23 เขม่นที่หน้าแข้งขวา ท่านว่า จะถูกต่างเพศหลอกลวง

24 เขม่นที่หน้าแข้งซ้าย ท่านว่า จะถูกเพศเดียวกันหลอกลวง

25 เขม่นแขนขวา ท่านว่า จะได้ลาภจากการเดินทาง

26 เขม่นแขนซ้าย ท่านว่า จะได้รับข่าวดี

27 เขม่นศอกขวา ท่านว่า ญาติพี่น้องจะมาเยี่ยม

28 เขม่นศอกซ้าย ท่านว่า จะมีคนรักที่ถูกอกถูกใจ

29 เขม่นมือขวา ท่านว่า จะได้หยิบเงินทองรางวัล

30 เขม่นมือซ้าย ท่านว่า จะมีเกียรติยศชื่อเสียง

31 เขม่นหลังฝ่ามือขวา ท่านว่า จะมีคนมาติดต่อเรื่องการงาน

32 เขม่นหลังฝ่ามือซ้าย ท่านว่า จะได้รับจดหมายจากต่างเพศ

33 เขม่นหัวคิ้วขวา ท่านว่า จะถูกเพื่อนฝูงหักหลัง

34 เขม่นหัวคิ้วซ้าย ท่านว่า จะมีคนรักบ่นถามถึง

35 เขม่นหางตาขวา ท่านว่า จะได้รับเงินทองมีโชคลาภ

36 เขม่นหางตาซ้าย ท่านว่า จะไม่สบายใจ ญาติมิตรจะเจ็บป่วย

37 เขม่นหน้าผาก ท่านว่า จะเสียของรักของหวงแหน

38 เขม่นที่ต้นคอ ท่านว่า จะประสบอุบัติเหตุ

39 เขม่นที่หัวนมข้างขวา ท่านว่า จะมีลาภจากต่างเพศ

40 เขม่นที่หัวนมข้างซ้าย ท่านว่า จะได้เดินทางไกล

41 เขม่นที่นิ้วชี้ ท่านว่า จะเกิดความขึ้นโรงศาล

42 เขม่นที่นิ้วกลาง ท่านว่า จะมีคนมาขอให้เป็นสักขีพยาน

43 เขม่นที่นิ้วนาง ท่านว่า จะได้รับข่าวดีจากต่างเพศ

44 เขม่นที่นิ้วก้อย ท่านว่า จะมีคนดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติ4

5 เขม่นที่นิ้วหัวแม่มือ ท่านว่า จะมีคนมาขอปรึกษา เป็นประธาน

46 เขม่นเข่าขวา ท่านว่า จะมีโชคลาภลอย

47 เขม่ีนเข่าซ้าย ท่านว่า จะมีปากเสียงกับคู่ครอง

48 เขม่นเท้่าขวา ท่านว่า จะมีการเดินทางไกล

49 เขม่นเท้าซ้าย ท่านว่า จะถูกต่างเพศเหยียดหยามเกียรติ

50 เขม่นที่ตะโพกขวา ท่านว่า จะมีโชคกับเพศตรงข้าม

51 เขม่นที่ตะโพกซ้าย ท่านว่า จะมีคู่ครอง แต่งงาน

52 เขม่นฐานหัวนมขวา ท่านว่า จะได้รับข่าวจากคนรัก

53 เขม่นฐานหัวนมซ้าย ท่านว่า คนรักจะคิดถึงมาก

54 เขม่นที่ข้อมือขวา ท่านว่า จะเกิดทะเลาะวิวาท

55 เขม่นที่ข้อมือซ้าย ท่านว่า จะได้พบคนรักมาเยี่ยม

56 เขม่นที่ไหล่่ซ้าย ท่านว่า จะมีความเดือดเนื้อร้อนใจ

57 เขม่นที่ไหลขวา ท่านว่า จะเสียเงินทองของรัก

58 เขม่นที่ปลายเท้าขวา ท่านว่า พี่น้องจะคิดถึงกัน

59 เขม่นที่ปลายเท้าซ้าย ท่านว่า จะมีการเดินทางไกล

60 เขม่นที่แก้มขวา ท่านว่า จะได้ลาภจากคนรัก

61 เขม่นที่แก้มซ้าย ท่านว่า จะมีความสุขกับคนรัก

62 เขม่นที่คาง ท่านว่า จะประสบความยุ่งยากกับครอบครัว

63 เขม่นคอข้างขวา ท่านว่า จะมีลูกชายเป็นที่พึงพอใจ

64 เขม่นคอข้างซ้าย ท่านว่า จะมีลูกสาวเป็นที่พึงพอใจ

(จากตำราพรหมชาติ)

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551

ลิขิต โชคชะตา


มีนักเขียนท่านหนึ่งมีคำแนะนำที่ดีในการปรับเปลี่ยนชีวิต
จึงขอนำแนวคิดของท่านมาลงเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่คนทั่วไป

เกร็ดจาก คำนำ “ 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา ” ของบัณฑิต อึ้งรังสี
หนทางที่สามารถก้าวไปถึงความสำเร็จ คือ ทำ ทำ ทำ และก็ ทำ
การที่จะช่วยให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้น อาจจะต้องมีพลังความช่วยเหลือมาจากภายนอก
( จากบุคคลผู้มีอำนาจ จากเพื่อนๆ หรือจากโชค ....)
นอกจาก จะต้องเก่งสู้เขาได้ หรือเก่งกว่า แล้ว จะต้องโชคดีกว่า จะต้องมีพลังอะไรต่างๆ มาคอยช่วยหนุน ประคับประคอง และผลักดันอยู่เสมอ
คุณเป็น “ คนโชคดี ” หากคุณประสบความสำเร็จ หรือได้สิ่งที่ต้องการ หรือมีความสุขได้ง่ายและเร็วกว่าคนอื่น
“ โชคร้าย ” ก็เหมือนมรสุมที่คอยขัดขวางการเดินทาง ทำให้ถึงเป้าหมายได้ยากขึ้น ถ้าท้อแท้และล้มเลิกยอมแพ้ ก็อาจไม่ถึงเป้าหมายนั้นเลย
รู้ เข้าใจ เห็นด้วย แต่เมื่อไม่ได้นำไปใช้ ก็ลืม
รู้ เข้าใจ เห็นด้วย แต่เมื่อไม่ได้นำไปใช้ อย่างนานเพียงพอ อย่าด่วนสรุปว่า ไม่ได้ผล
สิ่งที่จะช่วยความจำได้ดีที่สุด คือ การทำอยู่เรื่อยๆ จนติดเป็นนิสัย


กฎ “ 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา ”

กฎข้อที่ 1 คนโชคดี รู้ว่า “ โชค ” สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- ไม่มีอนาคตใคร ที่ฟ้าลิขิตมาแล้ว ทุกอย่างในอนาคตเปลี่ยนแปลงได้
- โชคที่ฟ้าลิขิตมานั้น มันดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่คนที่โชคดีจริงๆ นั้น สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ฟ้าให้มา เป็นสิ่งที่ดีได้ทั้งหมด
- จะเปลี่ยนโชคนั้นได้ คุณต้องเปลี่ยนความคิดของตนเองตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
ว่า โชคเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้

กฎข้อที่ 2 คนโชคดีเชื่อว่า ตัวเขาเองสามารถเปลี่ยนแปลงโชคนั้น ได้
- เราสร้างอนาคตของเราเอง แต่ไปเรียกมันว่า “โชคชะตา” (เบนจามิน ดิสเรลี)
- สิ่งที่ควบคุมโชคเหล่านั้น อยู่ในมือคุณทั้งหมด คือตัวคุณเอง
- การจะเรียนรู้จัก วิธีการควบคุมโชค การเป็นเจ้านายโชค และการกำราบโชคให้อยู่หมัด เราต้องเชื่อว่า เราเองเป็นผู้รับผิดชอบในความโชคดี โชคร้าย ของตัวเราเอง และต้องไม่ปัดความรับผิดชอบไปให้ผู้อื่น หรือสิ่งอื่น
- การเรียนรู้การเป็นเจ้านายของโชค เป็นเหมือนการเรียน “ทักษะ” (Skill) อย่างหนึ่ง ที่เราสามารถเรียนรู้ให้เก่งได้
- ข้อดีของการฝึก “ทักษะ” คือ ยิ่งเราเก่งมากเท่าใด เราก็ควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้นเท่านั้น
- เราต้องควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แทนที่จะให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นควบคุมเรา
- ยิ่งเราเก่งในเรื่อง “ทักษะในการควบคุมโชค” มากแค่ไหน ไม่ว่าสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น ร้ายหรือดี เราสามารถเปลี่ยนสถานการณ์นั้นให้เป็นดี หรือดีกว่า ได้ทั้งหมด

กฎข้อที่ 3 รู้จัก กฎพ่อ และกฎแม่ แห่งโชคลาภ
- กฎที่สำคัญที่สุดแห่งโชคลาภ คือ
o กฎแห่งเหตุและผล ( The law of cause and effect )
o กฎแห่งแรงดึงดูด ( The law of attraction )
- โลกนี้ เป็นโลกที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่แน่นอน ตายตัว ไม่ยกเว้นใคร (ไม่ว่าคุณจะชอบมัน หรือเชื่อมันหรือไม่ก็ตาม) คนที่ฝ่าฝืนไม่เคารพกฎเหล่านี้ จะได้รับผลลัพธ์ที่ตนเองไม่ต้องการ แล้วเรียกมันว่า “โชคร้าย”

กฎข้อที่ 4 จงเคารพ กฎแห่ง เหตุและผล (กฎพ่อ แห่งโชคลาภ)
- ทุกอย่างเกิดขึ้น โดยมีเหตุ มีผล (สำหรับผลทุกอย่าง จะมีสาเหตุที่แน่นอน)
- ถ้าคุณเปลี่ยนเหตุให้ดีขึ้น ผลของคุณก็จะดีขึ้น
- การกระทำ (หรือเหตุ) ทุกอย่าง จะมีผลตามมา ไม่ว่าเราจะ เห็นมันหรือไม่
และไม่ว่าเราจะชอบมันหรือไม่ ก็ตาม
** โชค ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อะไรที่เกิดขึ้นกับเรา จะเป็นผลบางอย่างจากการกระทำหรือความคิดของเรา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ข้อปฏิบัติ
ถ้าอยากได้ผล (หรือโชค) ที่ต่างไป ก็ต้องเปลี่ยนเหตุหรือการกระทำ และความคิดของเราเอง
บางทีสาเหตุนั้นอาจไม่ชัดเจน เราอาจไม่ทราบหรือไม่เข้าใจ หน้าที่ของเรา คือ หาสาเหตุนั้น

กฎข้อที่ 5 จงบูชา กฎแห่งแรงดึงดูด (กฎแม่แห่งโชคลาภ)
- (เพื่อได้) โชค คุณต้องใช้กฎแห่งแรงดึงดูด ช่วยดึง ผู้คนและสถานการณ์ ที่จะช่วยคุณให้เดินหน้าเร็วขึ้น เข้ามาในชีวิต (ไบรอัน เทรซี่ , สรอ.)
** กฎแห่งแรงดึงดูด “คุณจะดึงดูดสิ่งที่อยู่ในความคิดส่วนใหญ่ของคุณเข้ามาในชีวิต” ไม่ว่าจะเป็น คน สถานการณ์ สิ่งของ ...ฯลฯ... (กฎนี้ เป็นกฎตายตัวของโลก เหมือนกฎแห่งแรงโน้มถ่วง ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ และเชื่อมันหรือไม่ ก็ตาม)
ข้อปฏิบัติ
สิ่งเดียวที่ต้องทำ คือ ควบคุมความคิด ให้คิดแต่ในเรื่องที่ต้องการเท่านั้น (พูดถึงมัน ฝันถึงมัน หมกมุ่นอยู่กับมันตลอดเวลา) สิ่งนี้ ทำยากกว่าที่คิด เพราะจิตสำนึกของเราจะคอยคิดแต่เรื่องทางลบ
เทคนิค
ลงโทษตัวเองเล็กๆ (ทุกครั้งที่คิดในเรื่องทางลบ) เมื่อความคิดเถลไถลไปเรื่องทางลบ เพื่อเทรนให้จิตสำนึกเชื่อมความเจ็บกับความคิดทางลบ (ทำติดต่อกันอย่างน้อย 21 วัน จะเป็นการพัฒนาจิตใจให้กล้าแข็งขึ้น)
*** มีทางสองแบบ ที่จะไปถึงเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการ
ทางแรก ทำงานลูกเดียว เพื่อให้ถึงเป้าหมายให้ได้ (วิธีนี้ เหนื่อยและช้า)
ทางที่สอง ขณะที่คุณ วิ่ง เข้าหาเป้าหมาย เป้าหมายนั้น ก็วิ่ง เข้าหาคุณ (วิธีนี้
เหนื่อยน้อยและเร็ว)

กฎข้อที่ 6 กำจัด ความเชื่อที่จำกัด
- คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเราเลือกที่จะเป็นได้
- ที่สำคัญ ต้องคิดเป็น (ไม่เช่นนั้น ก็อยู่เหมือนคนล้มเหลว)
** ในโลกนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้าตั้งใจและคิดอย่างถูกต้อง
มนุษย์สามารถเป็นอะไรที่ตนเองต้องการได้ทั้งนั้น เพราะมนุษย์จะพัฒนาการไป
ตามที่ตนเองคิดเท่านั้น
- ถ้าคุณคิดเป็น คุณไม่ต้องพึ่งโชค แต่คุณจะสร้างโชค
- หากรู้วิธีสร้างโชคเองแล้ว อยากโชคดีแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
- สร้างโชค(ดี) เป็นผู้กำราบโชค เอาชนะโชคจนอยู่หมัด ย่อมมีความรู้สึกที่แตกต่างกับการตกเป็นเหยื่อของโชค(ร้าย)

กฎข้อที่ 7 ทำตัวเป็น หมอดูที่แม่นที่สุดในโลก
- ไม่มีคนคนใดสามารถมาลิขิตชีวิตของมนุษย์ได้ คุณจะต้องกุมบังเหียนชีวิตนี้เอง
ไม่ว่าชีวิตนี้จะออกมาดีหรือไม่ดี คุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบมันทั้งนั้น
** มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ มีความสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ โดยการคิด และการกระทำที่ถูกต้อง
- เพราะในเมื่อมนุษย์จะพัฒนาการไปตามอย่างที่ตนคิด การคิดและการกระทำ
ในตอนนี้ จึงเป็นตัวกำหนดผลในอนาคต
- คุณมีศักยภาพในการเปลี่ยนอนาคตของตัวเอง คุณสามารถทำนายอนาคตของคุณเองได้ ถ้าคุณ มุ่งพลังกาย พลังความคิด ไปที่สิ่งที่ดี ความฝันที่ยิ่งใหญ่ อนาคตของคุณก็จะไปในทิศทางนั้น (ดี / ไม่ดี)
“มนุษย์จะพัฒนาการไปตามอย่างที่ตนคิด” เป็นกฎที่แน่นอนและตายตัวของโลก เหมือน
กฎแรงโน้มถ่วง อยู่คู่โลกมาตั้งแต่มีมนุษย์ และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ใช้ได้ทุกประเทศ
ทุกสมัย ตลอดไป เป็นกฎแห่งการทำนายอนาคต
หน้าที่ของคุณ ก็คือ ทำอย่างไรที่จะเข้าใจถ่องแท้ถึงกฎนี้ เพื่อจะได้นำไปใช้ และเมื่อไหร่ที่คุณเป็นเจ้าของกฎนี้ คุณสามารถมี และเป็นอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา

กฎข้อที่ 8
คนโชคดี ตัดสินใจ ไขว่คว้าหาโชค
สุภาษิตญี่ปุ่นกล่าวไว้ว่า “ วันที่คุณตัดสินใจทำ เป็นวันโชคดีของคุณ ”

กฎข้อที่ 9 คนโชคดี ลงมือทำวันนี้
* เมื่อคุณรู้ว่าต้องการอะไร
คุณต้องเริ่มวางแผนเดินหน้าเข้าไปหาเป้า และทำวันนี้
(วันพรุ่งนี้ไม่เคยมา ชีวิตทุกคนประกอบไปด้วยวันนี้)
** เริ่มอะไรก็ได้ แม้ว่าเล็กเท่าใดก็ตาม เพราะการเริ่มต้นนั้นยากที่สุด
แต่เมื่อได้เริ่มแล้ว การทำต่อ จะใช้แรงและความพยายามน้อยลง

กฎข้อที่ 10 รู้จัก องค์ประกอบของโชค
เซเนกา / โรมัน / คศ. 1 , กล่าวว่า โชค คือ ความเตรียมพร้อม พบกับ โอกาส
** องค์ประกอบของโชคดี คือ - โอกาส
- ความเตรียมพร้อม
ทั้งสองสิ่งต้องเกิดขึ้นด้วยกัน จึงจะเป็น “ โชคดี ”
ถ้าโอกาสมาถึง แต่เราไม่พร้อม เรียกว่า ความน่าเสียดาย
** เราต้องรู้จักสร้างโอกาส ทำอย่างไรก็ได้ให้โอกาสเกิดขึ้นกับเรามากที่สุด **

กฎข้อที่ 11 เพิ่มโอกาส โดยลองสิ่งแปลกใหม่
** สิ่งหนึ่งที่ทำได้ ที่จะเปิดโอกาสนั้นมาถึงเราได้มากครั้งที่สุด คือ ลองสิ่งใหม่ ๆ
- ถ้าการกระทำของคุณเป็นแบบเดิม ๆ คุณก็จะได้ผลแบบเดิม ๆ
** ไอน์สไตน์ ให้คำนิยาม การทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา และหวังให้ผลมันเปลี่ยนไป
ว่า “ ความวิกลจริต ”
- ถ้าอยากได้ผลที่แตกต่างไปในทางดี ก็ต้องลองทำสิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ ที่เราไม่เคยทำ
หรือที่ไม่มีคนอื่นเคยทำ
- เนื่องจากโชคของคุณ ส่วนใหญ่จะมาจากผู้อื่น ดังนั้น การเจอคนใหม่ ๆ ที่ดี ๆ
ทำให้มีโอกาสที่จะประสบสิ่งดี ๆ
- ยิ่งคุณเป็นคนรู้จักคนมากเท่าไหร่ โอกาสที่คนจะนำไป หรือให้ไอเดียสิ่งดี ๆ
ก็มีเยอะมากยิ่งขึ้น แค่ไอเดียดี ๆ ไอเดียเดียว สามารถทำให้เราเป็นมหาเศรษฐีได้

กฎข้อที่ 12 เพิ่มโอกาส โดยการเอาตนเองเข้าไปอยู่ในหนทางของโอกาส
** การเอาตัวเข้าไปอยู่ในหนทางของโอกาส ก็เหมือนกับการไปรอตรงที่โอกาสมันมีสิทธิโผล่ขึ้นมาได้มาก เราควรคิดว่า สิ่งที่เราอยากได้ มันอยู่กันที่ไหนเยอะ ๆ
- การที่เราได้โอกาสมากกว่า ก็ทำให้ได้พัฒนาฝีมือได้รวดเร็วกว่า
ข้อคิด
ลองถามตนเองว่า เหตุที่เราไม่ก้าวหน้า หรือไม่มีโชค เป็นเพราะเราทำงานอยู่ในองค์กรที่ผิดหรือเปล่า ไม่เหมาะสมกับความสามารถส่วนตัวหรือเปล่า หรือตั้งร้านค้าอยู่ในสถานที่ที่ผิดหรือไม่..... (บางครั้ง แค่เปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ก็ทำให้โชคเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว)

กฎข้อที่ 13 เพิ่มโอกาส โดยการเพิ่มคุณค่าของตนเอง
** การเพิ่มคุณค่าให้ตนเองในทุก ๆ ทาง ทำให้เราวางตำแหน่งของตัวเราให้อยู่ในโอกาสที่คล้าย ๆ กัน คือ ดีขึ้น ดีขึ้น ยิ่งตนเองดีมากเท่าไร โอกาสที่ผ่านมาในชีวิต ก็ดีมากขึ้นเท่านั้น (โชคดี จะมีโอกาสเกิดมากขึ้น เป็นเงาตามตัว )
- กล่าวกันว่า “ Birds of a Feather Flock Together ”
“ คนที่อยู่ในระดับเดียวกัน จะอยู่ใกล้กัน หรือเป็นเพื่อนกัน ”
( คนที่ประสบความสำเร็จ ก็จะได้เพื่อน เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ )
- ยิ่งคุณเพิ่มคุณค่าให้ตนเองมากเท่าใด คุณก็จะมีเพื่อนเป็นคนที่มีค่าและประสบ
ความสำเร็จ เพิ่มขึ้นเท่านั้น
- ยิ่งคุณมีเพื่อน “ คุณภาพ ” มาก โชคดีของคุณก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณ
“ Like Attracts Like ” สิ่งที่คล้าย ๆ กัน จะถูกดึงดูดเข้าหากัน
** อยากได้ของดี ตนเองต้องเป็นของดีด้วย

กฎข้อที่ 14 เพิ่มโอกาส โดยการออกไปเจอคน
** เวลามีโอกาสผ่านเข้ามาถึง ถ้าคนในตำแหน่งที่มีอำนาจไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยเห็นหน้าเราเลย เขาไม่สามารถจับเราชนกับโอกาสนั้นได้ เขาต้องคิดถึง คนที่โดดเด่น ( ซึ่งบางครั้ง
ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องความเก่งเสมอไป อาจเป็นความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี หรือมีความเป็นผู้นำ หรือมีผลงาน )

กฎข้อที่ 15
คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
- คนที่ไม่ดี คนที่เป็นคนคิดทางลบ คนที่ชอบบอกว่า เป็นไปไม่ได้หรอก
อย่าคิดเลย คิดอะไรเกินตัว ฝันหวาน.... ส่วนใหญ่คนเหล่านี้ เป็นคนที่ไม่ค่อยจะทำอะไรที่น่าสนใจ อยู่ใกล้คนเหล่านี้นาน ๆ คุณจะคิดว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง
การที่เขาเหล่านั้นเป็นผู้แพ้ด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ไม่ควรจะมาทำให้คุณเป็น
ผู้แพ้ด้วย
* การอยู่ใกล้ ๆ คนที่กล้าคิดใหญ่ ฝันใหญ่ แล้วทำได้
ทำให้เราได้แรงบันดาลใจ กล้าคิด กล้าทำ
หรืออ่านหนังสือของคนที่ประสบความสำเร็จเขียนแบ่งปัน
ทำให้เราได้ความคิดใหม่ ๆ ดี ๆ โอกาสที่จะโชคดี มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
** ถ้าคุณอยากโชคดี ชีวิตคุณควรจะห้อมล้อมตนเองด้วยคนที่เก่ง ฉลาด ประสบความสำเร็จ คิดในทางบวก
อย่าไปเสียเวลากับคนที่ชอบพูดทางลบ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เพราะเขาจะนำเอาโชคร้ายมาให้

กฎข้อที่ 16 เพิ่มโอกาส โดยการเอาประโยชน์ให้มากที่สุดจากสถานการณ์ปัจจุบัน (ที่ไม่ดีนัก)
* โอกาสนั้น ไม่ใช่เกิดบ้าง ไม่เกิดบ้าง หรือเกิดตามความบังเอิญ
โอกาสนั้น มีอยู่ทั่วไป แต่เราจะเห็นมันหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าใจเราปิดแคบ หรือมีวิสัยทัศน์ที่แคบ ๆ เราก็จะไม่เห็นโอกาสนั้น
** คนที่โชคดี จะเป็นคนที่มองเห็นโอกาสในสถานการณ์ที่คนทั่วไปคิดว่า ไม่ดีนัก
และสามารถทำประโยชน์จากทุกสถานการณ์ (ถ้าสถานการณ์ไม่เหมือนกับที่
คาดหวังไว้ ก็จะไม่ย่อท้อ จะมองหาสิ่งดีที่เขาทำได้ในสถานการณ์นั้น)
** ในการแข่งขัน หัวสมองจะต้องเริ่มทำงานทันทีว่า ทำอย่างไร เราจึงจะโดดเด่น
จากผู้แข่งขันรายอื่น (ทำอย่างไรกรรมการจึงจะจำเราได้)
ซึ่งเมื่อหัวสมองได้พุ่งไปทำงานอย่างนั้นแล้ว จะทำให้เราสามารถเอาศักยภาพ
ทั้งหลายมาใช้ได้เต็มที่ ผลก็คือ ทำให้เราได้เรียนรู้อย่างมากมายถึงศักยภาพที่เรา
ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่

กฎข้อที่ 17
เตรียมความพร้อม สำหรับโอกาสที่กำลังจะมา เสมอ
- สถานะ ชาติตระกูล และองค์อื่น ไม่สำคัญเท่า ความทะเยอทะยานส่วนตัว
การใฝ่หาโอกาส และที่สำคัญที่สุด คือ การเตรียมความพร้อม
** อับราฮัม ลิงคอล์น กล่าวว่า ผมมีกฎง่าย ๆ คือ
“ จงเตรียมพร้อมทุกอย่าง เหมือนกับโอกาสของเราจะมาถึงในวันนี้ ”

กฎข้อที่ 18 เข้าใจว่า “โชคส่วนใหญ่ของคุณ จะมาจากคนอื่น.....”
- คนอื่น ๆ เช่น ผู้ใหญ่ที่เห็นผลงานดีของเรา / เพื่อนดี ๆ ที่ช่วยเหลือในสิ่งต่าง ๆ คนอื่น ๆ ที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะช่วยเรา .....ฯลฯ.....
** เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่า คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน จะเป็นคนที่โชคดีกว่าผู้อื่น
เป็นคนที่เพื่อนหรือผู้มีอำนาจนึกถึงเวลามีงานดี ๆ หรือมีคนดี ๆ ที่อยากแนะนำให้รู้จัก
- เมื่อไม่มีโอกาส ความสามารถอาจพัฒนาได้ช้ากว่าที่ควร

** เพิ่มสัมพันธภาพกับผู้อื่น ก่อนที่คุณต้องการขอความช่วยเหลือ
“ Dig your well before you’re thirsty ”

กฎข้อที่ 19 เป็น “คนเก่งทางด้านมนุษยสัมพันธ์”
- การเข้ากับคนได้ดี การทำตัวให้คนรักคนชอบ เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้กันตลอดชีวิต
- ยิ่งคุณเก่งเรื่องมนุษยสัมพันธ์มากเท่าใด คุณจะยิ่งโชคดีมากขึ้นเท่านั้น
วิธีบางวิธีที่จะเก่งทางมนุษยสัมพันธ์
1. ปฏิบัติกฎทองคำ “ปฏิบัติกับผู้อื่น เหมือนกับที่เราต้องการให้เขาปฏิบัติกับเรา”
2. ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือคลาสสิคด้านการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ของ
คาร์เนกี (How to win friends and pinfluence people)
** ที่สำคัญ การปฏิบัติให้ได้ผล ต้องปฏิบัติบ่อย ๆ จนตนเองเก่ง
- หน้าที่หลักของคอนดักเตอร์ คือ การทำงานกับคน (นักดนตรี)
ไม่ใช่กับสิ่งของ (เครื่องดนตรี)
- ความสำเร็จของคอนดักเตอร์
30 % มาจากความฉลาด ความรู้ ความเก่งในศาสตร์
70 % มาจากความสามารถในการสร้างสถานการณ์ ที่ทำให้ผู้ร่วมงานทำงานได้ดีที่สุด
** ในโลกของการทำงาน ทักษะ มนุษยสัมพันธ์ จะมีความสำคัญต่อความสำเร็จ
มากกว่าความเก่งเฉพาะด้าน

กฎข้อที่ 20
ช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน
** การหว่าน ต้องมาก่อนการเก็บเกี่ยว
* ไม่ว่าเราหว่านอย่างไร ก็จะเก็บเกี่ยวอย่างนั้น เป็นกฎตายตัวอีกกฎหนึ่งของโลก
การช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการหว่านอย่างหนึ่ง ที่ต้องทำก่อน และควรทำโดยไม่ต้องห่วง
การเก็บเกี่ยวหรือผลตอบแทน (ซึ่งจะมีมาแน่ ตามกฎตายตัวของโลก)

กฎข้อที่ 21 สร้างชื่อเสียงที่ดี
- ชื่อเสียง คือสิ่งที่คนอื่นพูดถึงคุณ เวลาอยู่ลับหลังคุณ
** ชื่อเสียงที่ดี จะทำให้คุณโชคดีได้อีกเยอะ เพราะจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
กฎเหล็กที่สำคัญ ที่เราต้องพึงจำไว้
“ People will do business with someone they know , Like and trust ”
(คนจะทำธุรกิจกับคนที่เขา รู้จัก ชอบ และเชื่อใจ)
- ยิ่งคนจำนวนมากเท่าไหร่ที่รู้จักเราและคิดถึงเราในทางที่ดี เราก็โชคดีมากเท่านั้น
** ภารกิจที่สำคัญที่สุดของคนที่อยากโชคดี คือ เพิ่มจำนวนคนที่รู้จักเรา ชอบเรา และ
เชื่อใจเรา ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

กฎข้อที่ 22 อย่าหาโชคที่การพนัน
** ในโลกของการพนันไม่มีคนโชคดี นอกจากเจ้าของกาสิโน
- ไม่มีใครโชคดีจากการพนัน ถึงแม้คุณจะเล่นได้ตอนนี้ ในที่สุดคุณก็ต้องเสีย
เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์จะไม่ยอมหยุดเล่นเมื่อกำลังได้ จะยอมหยุด
เมื่อเล่นเสียหมดตัวแล้ว หรือจนเป็นหนี้มหาศาล

กฎข้อที่ 23 อย่าแสวงโชคที่ล๊อตเตอรี่
- คนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ( Self-made
people สร้างตัวขึ้นมาโดยสุจริตและด้วยความสามารถตนเองแท้ ๆ
ไม่เกี่ยวกับมรดก ) จะไม่ซื้อล๊อตเตอรี เพราะเขารู้ว่า เงินได้มาจากงาน
ได้มาจากไอเดีย ได้มาจากความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
กฎของโลกอีกประการหนึ่ง คือ
“ You can’t keep anything you don’t deserve ”
คุณไม่สามารถรักษาอะไรที่คุณไม่สมควรได้รับไว้ได้
** การให้การศึกษาตนเองด้านการเงิน (Financial Education)
จะทำให้คุณรู้จักการรักษาเงินนั้น และทำให้มันโตได้

กฎข้อที่ 24 อย่ามีศัตรู (ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ)
- ศัตรูแค่คนเดียว ก็สามารถทำให้ชีวิตเรามีโชคร้ายได้เยอะแยะมากมาย
เพราะศัตรูคนนั้นก็มีเพื่อน ๆ และพรรคพวก ซึ่งอาจทำให้ชีวิตเรายากลำบาก
ขึ้นมาก

ฎข้อที่ 25 คนโชคดี คือ คนขยัน
เบนจามิน แฟลงคลิน กล่าวไว้ว่า
“ Diligence is mother of Goodluck ”
ความขยัน เป็นมารดาของความโชคดี
โทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวไว้ว่า
“ I am a Great Beliver In Luck ,
And I find The Harder I work ,
The More I have of It ”
“ ผมเชื่อเรื่องโชคเป็นอย่างมาก และผมพบว่า ยิ่งผมทำงานหนักมากเท่าไหร่
ผมก็ยิ่งมีโชคมากขึ้นเท่านั้น ”
** เมื่อเกี่ยวกับความสำเร็จแล้ว ไม่มีอะไรมาทดแทนการทำงานหนักได้
(เทคนิคบางอย่าง อาจทำให้ถึงความสำเร็จ เร็วขึ้น และง่ายขึ้น)
กฎข้อที่ 26 หาทางให้คนอื่นได้ประโยชน์ด้วย
- ยิ่งมีคนได้รับประโยชน์ (จากการรับใช้ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา) มากเท่าใร
โชคดี ก็ยิ่งมาเยือนมากเท่านั้น
** อย่าคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียว ก่อนที่จะทำอะไร ควรคิดก่อนว่า คนอื่นจะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่เราทำได้อย่างไร
- โลกทั้งโลกนี้ ประกอบไปด้วย “คนอื่น” ทั้งหมด ยกเว้นเพียงคนเดียวเท่านั้น
คือ ตัวเราเอง
* โลกนี้ เป็นโลกของการพึ่งพาอาศัยกัน
“ You can have everything in life you want , If you
will just help other people get what you want ”
* กุญแจสำคัญ
หาวิธีอะไรก็ตามที่เขาได้ และเราได้ ไปพร้อม ๆ กัน
และเมื่อนั้น เราสามารถจะได้อะไรก็ได้ในชีวิต
** การคิดให้คนอื่นได้ผลประโยชน์ และเน้นตรงส่วนนั้น
จะนำ “โชคดี” มาให้คุณมากมาย

กฎข้อที่ 27 การอิจฉาจะนำโชคร้ายมาเพิ่ม
** คนโชคดี จะยินดีกับคนอื่นเมื่อเขาได้ดี หรือประสบความสำเร็จ
- เวลาที่เราอิจฉาเขา มันสมองของเรากำลังมุ่งไปที่ที่ผิด
คือ มุ่งไปที่สิ่งที่คนอื่นมี แต่ที่เราไม่มี
กฎธรรมชาติของโลก
“ You get moer of what you focus on ”
ไม่ว่าสิ่งใดที่คุณเพ่งความสนใจไป สิ่งนั้น คุณจะมีมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นความจน ความป่วย ความมั่งมี ความสุข.......
- ยิ่งคุณมุ่งคิดไปในสิ่งที่คนอื่นมี และคุณขาด ความรู้สึกด้อยนั้นก็จะมีมากขึ้น
กฎข้อที่ 28 อย่าพูดว่า คู่แข่งหรือคนที่คุณไม่ชอบ “โชคดี”
** “ความโชคดี” คือวิธีการอธิบายความสำเร็จของผู้อื่น (ที่เราไม่ชอบ)
ฌอง คอดโต (นักเขียนชาวฝรั่งเศส)
EX สิ่งที่บัณฑิต อึ้งรังสี ทำ
- ทำงานหนัก เพื่อที่จะได้เป็นเลิศในสาขาที่อยากเก่ง
- มีวิธีการคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป (คิดต่างกัน ทำให้อนาคตต่างกัน)
- ต้องใช้ความอดทน
- ไม่ย่อท้อ เอาชนะความไม่ยุติธรรม
ข้อสำคัญ
1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
2. ทำงานหนัก เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ
** ในโลกนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ เมื่อเรามีความเชื่อและความกล้า
- เวลาเราเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ เราไม่ควรบอกว่าเขาโชคดี เพราะ
· ส่วนใหญ่แล้ว เป็นเพราะคุณอิจฉาเขา
· เป็นการดูถูกคนอื่นนิด ๆ
· การที่คนอื่นประสบความสำเร็จหรือได้สิ่งดี ๆ มีเหตุเสมอ ไม่ว่าคุณ
จะเห็นเหตุนั้นหรือไม่ก็ตาม

กฎข้อที่ 29
“ดูดี” เหมือนคนโชคดี
* เป็นเรื่องธรรมดาของโลก ที่คนที่ดูดี หล่อ สวย ก็จะได้โอกาสดี ๆ ในชีวิต
มากกว่าคนที่ไม่โดดเด่น
“ดูดี” = ดูดีทั้งรูปร่างหน้าตา , การแต่งกาย , บุคลิคภาพ , ความเฉลียวฉลาด และความสะอาด

** การเป็นนักฟังที่ดี ให้ความสนใจอย่างจริงจังกับคนที่พูดคุยด้วย สามารถทำให้เรา
เป็นคนมีเสน่ห์ ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อ “ ความโชคดี ”
- โชคและการดูดี มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน

กฎข้อที่ 30 จงรู้จักเห็นค่าของสิ่งที่มีอยู่แล้ว
กฎนี้ เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเป็น “บุคคลที่โชคดี”
หากคุณเป็นเจ้านายของกฎนี้ ไม่ยากเลยที่คุณจะเป็น “คนที่โชคดีที่สุดในโลก”
The Law of Gratitude
“ The more you appreciate what you already have ,
the more you will have”
ยิ่งคุณเห็นค่าสิ่งที่มีแล้ว คุณยิ่งมีเพิ่มขึ้น
** นอกจาก ความคิด ของเรา จะ “ดึงดูด” สิ่งต่าง ๆ เข้ามาในตัวเราแล้ว
ความรู้สึก ของเรา ก็จะดึงดูดด้วย
“ ความรู้สึกดี ๆ ” ก็จะดึงดูดสิ่งของหรือสถานการณ์คล้าย ๆ กัน ที่คนทั่วไป
เรียกว่า “โชคดี”

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

ทำนายฝัน ค


หลักคำสอนที่ปรากฏในคัมภีร์ปัถเวทน์เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นความสนใจที่ไม่ควรมองข้ามไปพอๆ กับการใส่ใจต่อสภาพความเป็นอยู่ของชีวิตของเราทุกคน เพราะเป็นหลักธรรมะที่หากบุคคลใดๆ ก็ตาม สามารถจะซาบซึ้งและทำความเข้าใจอย่างแจ่มชัดแล้วก็สามารถแผ่ความรู้ความเข้าใจด้วยปัญญาญาณไปยังปรากฏการณ์ของชีวิต โดยเฉพาะชีวิตที่ปนเปื้อนด้วยโลกธรรมในทุกแง่มุมได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
คำว่า “ไตรลักษณ์” นี้ (๑๒)มีความหมายว่าลักษณะ ๓ อย่างของสรรพสิ่งตามธรรมชาติ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสามัญลักษณะ คือลักษณะทั่วไปของสิ่งทั้งปวง ๓ ประการ ไตรลักษณ์เป็นกฎธรรมชาติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ไม่ว่าพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลกหรือไม่ กฎธรรมชาตินี้ยังคงมีอยู่และเป็นไปตลอดกาล พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบ แล้วนำมาประกาศให้คนอื่นเข้าใจตามมี ๓ ประการคือ ๑. อนิจจตา แปลว่า ความเป็นของไม่เที่ยง(๑๓) โดยคำว่า อนิจจตา มาจาก อ แปลว่า ไม่ นิจจ แปลว่า คงทน ตา แปลว่า ภาวะ ดังนั้น อนิจจตา จึงมีความหมายถึง ภาวะที่ไม่คงทนถาวรหรือภาวะที่ไม่เที่ยง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ มีเกิดมีดับ มีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางสิ่งเราเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน อาทิเช่น ทารกเกิดมาตัวเล็กนิดเดียวแล้วค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้นเป็นเด็ก เป็นหนุ่มสาว และแก่ชรา สุดท้ายก็ตายจากไป อาทิเช่น ภูเขา เราสังเกตเห็นความเปลี่ยนได้ยากดูเหมือนว่า ๑๐๐–๒๐๐ ปี ก็ยังเหมือนเดิน ความจริงแล้ว ภูเขานั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่สังเกตเห็นไม่ได้ด้วยการใช้เวลาเพียงเล็กน้อย และสิ่งที่เป็นนามธรรมก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนกัน อาทิเช่น ได้ลาภ(๑๔) เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ มีนินทาและสรรเสริญ เคยเป็นคนดีแต่ก็กลับเป็นคนเลวได้ วันนี้สิ่งหนึ่งให้ความสุขแก่เราได้ ภายหลังสิ่งนั้นอาจให้ความทุกข์แก่เราก็ได้
๒. ทุกขตา แปลว่าความเป็นทุกข์หรือทนอยู่ได้ยาก มาจาก ทุกข แปลว่า ทนไม่ได้ เป็นทุกข์ และ ตา แปลว่า ภาวะ รวมความคือภาวะที่ทนไม่ได้ หมายถึงภาวะที่ขัดแย้งไม่สมบูรณ์ มีความบกพร่องอยู่ในตัว พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
๓. อนัตตตา แปลว่า ความเป็นของไม่ใช่ตัวตน มาจาก อะนะ แปลว่า ไม่ อัตต แปลว่า ตัวตน ตา แปลว่า ภาวะ รวมความคือ ภาวะที่ไม่มีตัวตน อนัตตตา แปลได้ ๒ ความหมายคือ ๑. แปลว่า ไม่ใช่ตน หมายความว่า ไม่ใช่ตัวตนของตน สิ่งที่เป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ซึ่งประกอบกันเข้าเป็นรูปเป็นร่างที่เราเข้าใจว่า คน นี้ ไม่ใช่ตัวของคน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นของว่างเปล่า เป็นเพียงสิ่งสมมติ มันเป็นเพียงสภาวธรรมที่เกิดขึ้น และดำเนินไปตามเหตุปัจจัย และ ๒. แปลว่า ไม่มีตัวตนที่แท้จริง หมายความว่า ไม่มีวิญญาณถาวรหรือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย
และสิ่งใดเล่าที่ทำให้ไม่สามารถพิจารณาเห็นความจริงแห่งไตรลักษณ์นี้ ท่านอธิบายว่า มี ๓ สิ่งด้วยกันที่มาปิดบัง คือ ๑.สันตติ ความสืบต่อแห่งนามรูป เป็นสิ่งที่มาปิดบังอนิจจังไว้ กล่าวคืออนิจจังนี้โดยรวมคือความสืบต่อแห่งกรรม ฤดู จิต อาหาร ตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายคือ ขนเก่าหลุดล่วงไป ขนใหม่เกิดขึ้นแทน อายุวันเก่าหมดไป อายุวันใหม่มาแทน ความคิดเก่าดับไป ความคิดใหม่มาแทน นี้คือคุณลักษณะของสันตติที่มาปิดบังไม่ให้เห็นความเป็นอนิจจัง ๒. อิริยาบถ การเปลี่ยนอิริยาบถ เข้ามาปิดบัง ทุกขัง ตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายคือ เมื่อเราเดินเมื่อย เราก็เปลี่ยนเป็นนั่ง นั่งเมื่อยก็เปลี่ยนเป็นนอน ทำให้คิดว่าขันธ์ ๕ ของเราเป็นสุข และ ๓.ฆนสัญญา ความเป็นกลุ่มก้อนที่อยู่ในตัวเรา ปิดบังความเป็นอนัตตา ทำให้เรายึดถือว่าเป็นตัวเป็นตน แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงธาตุต่างๆ ประกอบขึ้นเป็นคน ถ้าแยกออกแล้วไม่มีความเป็นคนเลย ต่อเมื่อรวมกันเข้าจึงสมมติชื่อว่าเป็นสิ่งนั้นบ้าง สิ่งนี้บ้าง นี้คือสิ่งที่เรียกว่าฆนสัญญา ที่เข้ามาปิดบังปัญญาไม่ให้เห็นความเป็นอนัตตาของสรรพสิ่งทั้งปวง
โดยสรุปแล้วเราสามารถเรียนรู้ความเป็นสามัญแห่งลักษณะดังกล่าวได้ อาทิเช่น เมื่อเห็นมะม่วงก็ให้พิจารณาความไม่เที่ยง(อนิจจตา)คือการมีผลอ่อน ผลแก่ และผลสุก สาเหตุที่ทำให้มะม่วงเปลี่ยนสภาพไปเรื่อยๆ เพราะเนื้อมะม่วงไม่มีความสมบูรณ์ เนื้อมะม่วงจึงทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ (ทุกขตา) ต้องแปรเปลี่ยนไปจนผลมะม่วงสุกและเน่าเสียไปในที่สุด การที่ผลมะม่วงมีอ่อนมีแก่ในตัวของมันเองเป็นภาวะที่มิใช่ตัวตน(อนัตตตา)ความอ่อน ความแก่ของมะม่วงเป็นผลของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พุทธศาสนาจึงไม่เชื่อว่าต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพเจ้าองค์ใดมาคอยกำกับการเปลี่ยนแปลงของผลมะม่วง สรรพสิ่งทั้งหลายย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ โดยไม่มีผู้ใดมาบันดาลให้เป็นไปได้
๔. บทสรุป : สารัตถธรรมในคัมภีร์ปัถเวทน์กับการนำมาใช้ได้จริง
และเมื่อท่านทั้งหลายอ่านคัมภีร์ปัถเวทน์นี้จบลงอย่างละเอียดแล้วจะพบว่า มีคำสอนที่แฝงอยู่อย่างมากทั้งในแง่ของบุคลาธิษฐานคือการยกตัวบุคคลเป็นองค์ประกอบ หรือธรรมาธิษฐาน การยกหลักธรรมเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการปกครองของท่านผู้ปกครอง อาทิเช่น พระพุทธเจ้าสอนเรื่องการปกครองโดยหลักทศพิธราชธรรม(๑๕) การมีสติความไม่ประมาทคือการเป็นอยู่อย่างไม่ขาดสติมีความเพียรที่มีสติเป็นเครื่องเร่งเร้าและควบคุมเป็นคุณเครื่องกำกับความประพฤติและการกระทำทุกอย่าง ระมัดระวังตัวไม่ยอมถลำไปในทางเสื่อม
ขณะเดียวกันก็ไม่พลาดโอกาสสำหรับความดีงาม ความเจริญก้าวหน้า ตระหนักในสิ่งที่พึงทำและพึงละเว้น ใส่ใจสำนึกอยู่เสมอในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ กระทำการด้วยความจริงจัง รอบคอบ และต้องก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ การเป็นคนมีความกตัญญูกตเวที (๑๖) สิ่งเหล่านี้ คนไทยเชื่อว่าเป็นบุญทั้งสิ้น เป็นบุญที่อยู่ในระนาบที่จะทำให้ได้มาซึ่งลูกหลานที่เป็นคนดีมีความกตัญญูกตเวที ว่านอนสอนง่าย รักพ่อ รักแม่ คนไทยจึงมีกุศลเจตนาน้อมไปในการทำบุญและสร้างกุศลอย่างเป็นด้านหลัก ซึ่งเมื่อกล่าวเฉพาะเรื่องบุญในพระพุทธศาสนามีความหมายเป็น ๓ ประการคือ ๑. หมายถึงความสะอาด ความบริสุทธิ์ และความดี อันหมายถึงสภาพจิตใจที่ผ่องใส บุญจะทำหน้าที่ชำระล้างความชั่วหรือมลทินในจิตใจให้หมดสิ้นไปหรือบรรเทาเบาบางลงได้ ๒. หมายถึงการกระทำความดีต่างๆ มีสภาพเป็นเหตุแล้วส่งผลเป็นความสุข และ ๓.หมายถึงความสุขมีสภาพที่เป็นผลเพราะความสุขเป็นผลของการทำความดี สิ่งใดที่ทำไปแล้วไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน สิ่งนั้นจัดเป็นบุญ เป็นบุญและความดีที่อยู่ในระนาบที่พุทธศาสนาเรียกว่าบุญกิริยาวัตถุ(๑๗) ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราอ่านเรื่องนี้ด้วยการพิจารณาดูให้ดีแล้ว จะพบเจตนาเดิมของท่านว่าเป็นไปในทางให้คนเรารู้ตัวล่วงหน้าถึงความเป็นอนิจจังของโลก มากกว่าที่จะให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นไปทุกตัวอักษร แม้ว่าเรื่องที่กล่าวนั้นในบัดนี้รับรองกันเป็นเรื่องจริงอยู่มากก็ตาม โลกเรานี้ไม่มีอะไรแน่นอน เป็นไปตามโลกธรรมทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี มีทั้งที่น่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนา(๑๘) และก็ในเมื่อมันอาจเปลี่ยนกลับไปกลับมา หน้ามือเป็นหลังมืออยู่เช่นนี้ พระเจ้าปเสนทิโกศลจะฝันจริงหรือไม่จริงนั้น(๑๙) เราไม่คิดก็ได้ไม่เป็นปัญหาสำคัญ แต่ปัญหาสำคัญนั้นอยู่ที่ว่าเราจะทำตัวเราเองให้เหมาะสมกับที่จะอยู่ในโลกอันไม่แน่นอนนี้อย่างไรเท่านั้น หากใครจะเชื่อถือเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องทำนายฝันที่แน่นอนอย่างยิ่งก็คงจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรมากไปกว่าอ่านหนังสือทำนายฝันธรรมดาเล่มหนึ่งเท่านั้น(๒๐)แต่ถ้าอ่านในฐานะเป็นเรื่องหลักธรรมที่แสดงความไม่เที่ยงที่สั่งสอนตัวเองไม่ให้ทำบาป แต่ให้เป็นคนกตัญญู รักสงบ คิดช่วยตัวเอง รักษาเกียรติยศของตัวเอง ต้องไม่ทำร้ายตัวเองประดุจว่าใครๆ ก็ไม่รัก ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย(๒๑) ต้องประคองสติแล้วนำกลับมาสู่การกระทำที่เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์จะดีกว่าซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับพุทธศาสนาที่เน้นเรื่องกรรมดี กรรมชั่ว ไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องชะตาลิขิตแต่ถือกฎแห่งกรรมเป็นด้านหลัก(๒๒) ถ้าทำอยู่เช่นนี้ผลจะไปเกิดเป็นอย่างอื่นตามตำราโชคชะตาหาได้ไม่ ต้องเป็นไปตามเหตุผลของมันเอง ทางดีที่สุดก็คือการคิดหาคำตอบของปัญหาที่ว่าเราจะครองชีพอยู่อย่างไรจึงจะพบความสุขโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอนด้วยการใช้ปัญญาความรอบรู้ ที่อยู่ในระนาบของความเฉลียวฉลาด ความเชี่ยวชาญ ความเบิกบาน และคุณธรรม กล่าวคือการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความความบริสุทธิ์ใจ ยึดหลักปัญญา เมตตา และขันติ สามารถเป็นตัวอย่างให้ลูกหลานของเราได้ถือเป็นตัวอย่างในการที่จะครองชีวิตได้อย่างมีความสุข.

ทำนายฝัน ก


เรื่องราวและนัยที่เกี่ยวกับคำทำนายคัมภีร์ปัถเวทน์ เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เป็นความมหัศจรรย์ที่ต่อมาคำทำนายหลายข้อที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ปัถเวทน์นั้น เกิดปรากฏเป็นความจริงที่ใกล้เคียงกันเหตุการณ์ในปัจจุบันในระนาบที่แทบจะเป็นภาพจำลองที่กล่าวไว้ในคำทำนายนั้นก็ไม่ปาน ปรากฏการณ์เหล่านี้มีความอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง เป็นความอย่างยิ่งและยิ่งใหญ่ที่แม้แต่ปราชญ์เมธีแห่งยุคสมัยเฉกเช่นพระพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมกขพลารามก็นำมากล่าวไว้อย่างแยบยล และคำทำนายของปัถเวทน์ล้วนแต่มีคติธรรมที่สำคัญต่อการทำความเข้าใจพุทธธรรมและกฏแห่งสามัญญลักษณ์ ที่อธิบายว่าสรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามกฏแห่งธรรมชาติและกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เสมอและเหมือนกัน
คำทำนายนี้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างมากนับช่วงเวลาได้ราว ๑,๕๐๐ ปี ตามการคำนวณของอายุคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ในเรื่องนี้มีบุคคลสำคัญทางพระพุทธศาสนาปรากฏชื่อหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าปเสนทิโกศลซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องอันเป็นมูลเหตุของข้อเขียนนี้ รวมถึงพระเจ้าพันธุละ พระเจ้ามหาลิ พระนางมัลลิกาและพระเจ้าวิฑูฑภะ ผู้สำเร็จโทษราชสกุลศากยะอันเป็นพระราชวงศ์แต่เดิมของพระพุทธเจ้าจนหมดสิ้น ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า พระเจ้าวิฑูฑภะให้ประหารทุกคนที่เมื่อทหารถามว่าเป็นเชื้อสายแห่งเจ้าศากยะหรือไม่ หากตอบว่าใช่ก็ให้ประหารเสียให้สิ้น ในคราวนั้นปรากฏว่ามีเจ้าศากยะบางพระองค์รอดชีวิตมาได้ด้วยการพากันหยิบต้นอ้อและต้นหญ้าแล้วกล่าวว่าไม่ใช่เจ้าศากยะ แต่เป็นต้นอ้อ เป็นต้นหญ้า จึงรอดชีวิตมาได้ จนต่อมารู้จักกันในนามกลุ่มเจ้าศากยะอ้อ เจ้าศากยะหญ้า
เรื่องราวในคำทำนายนี้สอนหลักธรรมหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรรม เรื่องไตรลักษณ์ ความไม่ประมาท การทำบุญทำกุศล การสร้างความดีให้ตัวเองและผู้อื่นเป็นต้น นับได้ว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรแก่การเพ่งพิจารณาและปัจจเวกขณ์โดยสติปัญญา โดยความเคารพในความไม่ประมาท โดยเฉพาะแล้วเป็นช่วงเทศกาลงานบุญพิธี ตามประเพณีนิยมอาทิเช่นการทอดกฐินในปีนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว

๒. ประวัติพระเจ้าปเสนทิโกศล และความเป็นมาของคำทำนายปัถเวทน์
สำหรับพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ มีปรากฏในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาหลายแห่งด้วยกัน ลักษณะเป็นข้อมูลที่ไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกันนัก กล่าวคือมีปรากฏในธัมมปทัฏฐกถาแปล ภาคที่ ๓ และภาคที่ ๖ และในพระไตรปิฏกคือในโกศลสังยุตตนิกาย เล่มที่ ๑๕ ซึ่งพอลำดับเรื่องได้ดังนี้
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเป็นศิษย์เก่าแห่งตักสิลาแห่งคันธาระรัฐ(๑) โดยได้เสด็จไปศึกษากับอาจารย์ทิศาปาโมกข์ สมัยที่ทรงดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมาร โดยเดินทางไปพร้อมกันกับเจ้าชายอีก ๒ พระองค์คือเจ้าฟ้าชายมหาลิ แห่งแคว้นลิจฉวี และเจ้าฟ้าชายพันธุละ แห่งแคว้นมัลละ โดยเจ้าฟ้าชายทั้ง ๓ พระองค์นี้ได้เข้าศึกษายังสำนักตักสิลาเป็นศิษย์รุ่นเดียวกัน ในพระไตรปิฏก อรรถกถาธรรมบทระบุว่า หลังจากท่านสำเร็จการศึกษาแล้ว เจ้าชายทั้ง ๓ พระองค์นี้ ได้ทรงแยกกันกลับไปยังเมืองของตนเอง โดยเจ้าชายมหาลิได้แสดงความสามารถทางศิลปะที่ได้ศึกษามาคือการยิงธนู และได้รับอุบัติเหตุในการแสดงศิลปะจนพระเนตรบอดทั้งสองข้าง โดยเจ้าฟ้าชายมหาลิ ทรงเป็นผู้ที่มีกำลังอย่างมหาศาสลทีเดียว กล่าวกันโดยสมญานามคือเฉพาะแต่คันธนูของพระองค์นั้นต้องใช้กำลังของชายวัยกลางคนถึง ๕๐๐ คน จึงสามารถยกขึ้นได้ สายธนูนั้นเมื่อง้างขึ้นแล้วปล่อยไป เสียงลูกธนูที่กระทบกับสายลมคล้ายเสียงอัสนีบาต สามารถยิงทะลุข้าศึกแม้มีจำนวนถึง ๕๐๐ คนได้ โดยที่ผู้ถูกลูกธนูของท่านก็ไม่รู้ว่าต้องศรธนู ต่อเมื่อดึงลูกธนูออกจึงรู้และเสียชีวิตในทันที โดยเหตุการณ์นี้ปรากฏในการทำศึกของพระองค์หลายครั้งด้วยกัน ส่วนเจ้าชายพันธุละทรงแสดงศิลปะการฟันดาบ โดยสามารถฟันไม้ไผ่ที่สอดเหล็กกล้าไว้ภายในลำไม้ไผ่กำละ ๖๐ ลำ ขาดทันที ส่วนพระเจ้าปเสนทิโกศลก็เช่นกัน(๒)
หลังจากแสดงศิลปะแล้วเจ้าฟ้าชายทั้งสามเมืองนี้ต่างก็ได้รับการพระราชทานการอภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทุกพระองค์ โดยพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงปกครองแคว้นโกศล มีเมืองสาวัตถีเป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐมคธ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ๑๖ รัฐ เป็นราชธานีที่มีความเกี่ยวข้องอย่างสำคัญกับพระพุทธเจ้าและพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาลเป็นอย่างมาก โดยเป็นแคว้นที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ถึง ๒๕ พรรษา(๓) ในเมืองสาวัตถีแห่งนี้เองพระพุทธเจ้าทรงได้ทั้งอุบาสกและอุบาสิกาที่นับว่าเป็นกำลังสำคัญ อย่างเช่น อนาถปิณฑิกเศรษฐีมหาอุบาสก ซึ่งเป็นผู้สร้างวัดเชตวันมหาวิหาร นางวิสาขามหาอุบาสิกา ผู้สร้างวัดบุพพาราม และแม้แต่พระเจ้าปเสนทิโกศลเองก็ทรงเป็นผู้สร้างวัดราชการามถวายแด่พระพุทธเจ้าด้วยเช่นกัน

ทำนายฝัน ข


ในส่วนของพระเจ้าปเสนทิโกศลนั้น นอกจากพระองค์จะทรงเป็นกษัตริย์เจ้าสำราญ ยังทรงเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการบริจาคทานเป็นเลิศอีกด้วย กล่าวคือพระองค์นอกจากมีพระมเหสีที่เป็นภคินีของพระเจ้าพิมพิสารแล้ว ยังทรงมีมเหสีอื่นอีกหลายพระองค์ด้วยกัน ที่สำคัญคือพระนางมัลลิกา(๔) ตามประวัติแล้วกล่าวว่าพระนางเป็นพระมเหสีที่ไม่ทรงพระสิริโฉม แต่เป็นผู้ที่มีปัญญา มีความฉลาดเป็นเลิศ โดยเฉพาะการจัดการถวายทานที่สำคัญๆ โดยพระนางถือกำเนิดในวรรณะแพศย์ พระเจ้าปเสนทิโกศลได้พบนางเมื่อครั้งนั่งขายดอกมะลิอยู่ที่ร้านในตลาด ทรงพอพระทัยในความฉลาดจึงทรงรับไว้เป็นพระมเหสี นอกจากนี้ยังพบว่าพระองค์ทรงมีพระมเหสีอื่น อาทิเช่น พระนางวาสภขัตติยา พระมารดาของพระเจ้าวิฑูฑภะ ทั้งยังมีพระชายาอีกคือพระนางวาสภขัตติยาผู้เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงขอมาอภิเษกด้วยหวังจะได้เป็นพระญาติสนิทของพระพุทธเจ้าในส่วนของพระปรีชาสามารถของพระองค์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือการมีกองทัพที่เข้มแข็งและฉลาดในการรบมากที่สุดพระองค์หนึ่ง (๕) ในท้ายพระชนม์ชีพของพระองค์มีลักษณะคล้ายกับพระเจ้าพิมพิสารผู้พระสหาย แห่งแคว้นมคธ(๖) ซึ่งถูกพะราชโอรสยึดอำนาจเหมือนกัน โดยพระเจ้าพิมพิสารถูกพระเจ้าอชาตศัตรูยึดอำนาจด้วยการสำเร็จโทษในเรือนจำ ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ๘ ปี และพระเจ้าปเสนทิโกศล ถูกพระเจ้าวิฑูฑภะ พระราชโอรสที่ประสูติแต่พระนางวาสภขัตติยายึดอำนาจในปีที่พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน(๗) ที่กล่าวมาโดยย่อนี้เพื่อแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของคำทำนายปัถเวทน์ (๘)ของพระองค์(พระเจ้าปเสนทิโกศล) คำทำนายพระสุบินของพระเจ้าปเสนทิโกศล หรือที่เรียกเพี้ยนไปว่า “ปัถเวนท์” นั้น(๙) เป็นเรื่องที่น่าคิด จะคิดเพราะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม อย่างน้อยจะทำให้พบความเพลินในธรรม โดยเฉพาะคือความไม่เที่ยงของโลก และเห็นสมจริงตามที่ท่านกล่าวนั้นบ้างไม่มากก็น้อย ความในฝันนั้น มีอยู่ ๑๖ ข้อ มีที่มาในบาลีคือพระไตรปิฎกสยามรัฐ เล่ม ๒๗ หน้า ๒๔ มีอธิบายละเอียดในอรรถกถาของพระบาลีนั้น คือเอกนิบาตวัณณนา ภาค ๒ หน้า ๑๔๖ ส่วนที่แปลเป็นภาษาไทยแล้ว คือชาดกฉบับหอสมุดวชิราวุธ เล่ม ๒ หน้า ๑๗๙ จะยกเอาหัวข้อบาลีในพระไตรปิฎกมาใส่ไว้ในที่นี้ก่อนคือ(๑๐)
อุสภา รุกฺขา คาวิโย ควา จ อสฺโส
กโส สิคาลี จ กุมฺโภ โปกฺขรณี จ
อปากจนฺทนํ ลาวูนิ สีทนฺติ สิลา
ปลวนฺติ มณฺฑูกิโย กณฺหสปฺเป
คิลนฺติ กาก สุวณฺณา ปริวารยนฺติ
ตสาวกา เอฬกานํ ภายนติ
วิปริยาโย วตฺตติ นยิธมตฺถิ ฯ
คำแปล. หม่อมฉันได้ฝันเห็นโคอุสุภราช ๑ ต้นไม้๑ แม่โค๑ โคสามัญ๑ ม้า๑ ถาดทองคำ๑ สุนัขจิ้งจอก๑ หม้อน้ำ๑ สระโบกขรณี๑ ข้าวสารที่หุงไม่สุก๑ แก่นจันทน์๑ น้ำเต้าจมน้ำ๑ หินลอยน้ำ๑ นางเขียดกลืนกินงูเห่า๑ หงส์ทองแวดล้อมด้วยกา๑ เสือกลัวแพะ๑ ดังนี้ ปริยายอันผิดนี้จักไม่มีในยุคนี้ฯ
เนื้อหาสาระของความเรื่องนี้ เริ่มจากว่าพระเจ้าปเสนทิโกสล มหาราชแห่งกรุงสาวัตถี แคว้นโกศล ทรงพระสุบินไปในคืนวันหนึ่งว่า ได้เห็นเรื่องประหลาดที่ไม่คิดว่าจะเป็นได้ถึง ๑๖ เรื่องด้วยกัน รุ่งขึ้นจึงตรัสถามพราหมณ์ในที่ประชุมเสนามหาอำมาตย์ว่าความฝันของพระองค์จะมีผลดีร้ายประการใดคณะพราหมณ์กราบทูลว่า ความฝันครั้งนี้ร้ายแรงมาก จะมีภัยต่อราชบัลลังก์และพระชนมายุ ต้องทำพิธีบูชายัญด้วยชีวิตคน สัตว์ และสิ่งของ เป็นจำนวนมาก เคราะห์ร้ายจะกลายเป็นเคราะห์ดี และหายได้ในที่สุด พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงตกพระทัย รับสั่งให้เตรียมการทำพิธีบูชายัญตามคำแนะนำของคณะพราหมณ์ โดยระหว่างที่กำลังเตรียมการอยู่นั้น พระนางมัลลิกา ทูลแนะนำให้ไปขอคำอธิบายจากพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งขณะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ใกล้กรุงสาวัตถี พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเห็นดีด้วย จึงเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วกราบทูลถามถึงเหตุแห่งมหาสุบินนิมิตนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่า ความฝันครั้งนี้จะไม่มีผลแก่ตัวพระเจ้าปเสนทิโกศล และจะไม่มีผลในปัจจุบันนี้ แต่จะมีผลแก่มนุษย์ชาติในอนาคตกาล และได้ทรงพยากรณ์ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศลทีละข้อจนจบดังนี้ (๑๑)
(๑) อุสภา โคล่ำสันสี่ตัววิ่งมาจากทิศทั้งสี่ มีอาการเกรี้ยวกราดวิ่งเข้าหาดุจจะชนกันที่หน้าพระลานหลวง พอเข้าใกล้กัน ก็ถอยห่างออกจากกันเสีย หาชนกันไม่ ข้อนี้ทรงทำนายว่า ไม่เกิดอะไรขึ้นแก่พระเจ้าปเสนทิหรือใครๆในบัดนี้ แต่ว่าในกาลข้างหน้า เป็นสมัยที่พระราชาหรือชนชั้นปกครอง และพลเมืองพากันประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นธรรม พากันเดือดร้อนข้าวยากหมากแพง กระทั่งฝนก็ไม่ตก มีแต่ลั่นคำรามเฉยๆ สำหรับในบัดนี้ น่าจะได้แก่การที่มหาประเทศ ทั้งหลายเข็ดข้อระอา ในการที่จะทำสงครามแก่กันได้แต่คำรามกันเฉยๆ
(๒) รุกฺขา ต้นไม้ทั้งหลาย พองอกได้เพียงคืบหนึ่ง หรือศอกหนึ่ง ก็มีดอกและมีลูก ทรงทำนายว่าในกาลข้างหน้าสมัยหนึ่ง เด็กหญิงและชายจะมีราคดำฤษณาไปสู่อำนาจบุรุษแต่เด็กๆ มีครรภ์และมีบุตร ทั้งที่วัยยังไม่สมบูรณ์ ข้อนี้ดูเหมือนว่า เท่าที่ปรากฏอยู่แก่ตาเราทั่วไปในบัดนี้ ก็พอที่จะรับรองความข้อนี้ได้แล้ว
(๓) คาวิโย แม่โคทั้งหลายต่างต้องพากันดูดกินนมของลูกโคที่ตนเพิ่งคลอดออกมาเอง ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งหมู่มนุษย์พากันละเลยต่อเชฎฐาปจายนกรรม คือการนอบน้อมต่อท่านผู้เจริญกว่า โดยอายุ โดยชาติและคุณสมบัติ เด็กหนุ่มทั้งหลายสามารถหาเลี้ยงตัวเองตามชอบใจ ได้ทรัพย์มาแล้ว ชอบใจก็แบ่งให้บิดามารดาที่แก่เฒ่า ไม่ชอบใจก็ไม่แบ่ง ถือลัทธิเสรีภาพแม้ต่อกฎแห่งกรรม คนแก่ทั้งหลายจักต้องคอยประจบประแจงเอาใจเด็กๆของตน เพื่อขอสิ่งของมาเพื่อรับประทานไปวันหนึ่งๆ(๔) ควา จ หมู่มนุษย์พากันจับลูกโคอ่อนๆ เข้าเทียมแอก ปล่อยโคที่หนุ่มแน่นแข็งแรงเสีย ไม่เอาใจใส่ ผลที่ได้ก็คือความยุ่งยากไม่ลุล่วงสมหมาย ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่ง ซึ่งพระราชา หรือชนชั้นปกครอง พากันมีความคิดเห็นตรงกันข้าม ปลดอำมาตย์ที่คงแก่งานออกเสียจากตำแหน่ง แต่งตั้งหนุ่มคะนองเข้าแทนที่ พวกครูอาจารย์ต้องเก็บตัวหุบปากเงียบ ไม่มีการเกี่ยวข้อง และพวกหนุ่มคะนองเหล่านั้น ลากเอากิจการของหมู่ของคณะเข้าหาความยุ่งยากหนักขึ้นทุกที
(๕) อสฺโส ม้าตัวหนึ่ง มีปากทั้งสองข้างและคงมีหัวสองหัวด้วย มหาชนพากันเอากล้าข้าวเหนียวป้อนมันทั้งสองปากอย่างเหลือเฟือ ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่ง ซึ่งผู้มีอำนาจตั้งมนุษย์ผู้ไม่ยุติธรรมไว้ในฐานเป็นผู้วินิจฉัยคดี เขาพากันเรียกเอาสินบนเอาจากคู่ความทั้งสองข้างเสียก่อน แล้วจึงตัดสินเอาตามพอใจตน
(๖) กโส มนุษย์พากันขัดสีถาดทองคำราคาตั้งแสน ให้สวยสะอาดแล้ว นำไปหาสุนัขจิ้งจอกให้ถ่าย ปัสสวะใส่ ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่ง ซึ่งคนตระกูลสูงตกอยู่ในความประมาท พวกตระกูลหรือวรรณะต่ำๆพากันยกตัวเองขึ้นได้ด้วยการศึกษา จนพระราชาทรงแต่งตั้งแทนพวกตระกูลสูง พวกตระกูลสูงจักต้องยอมให้บุตรธิดาของตนทำการสมรสกับพวกต่ำ ข้อนี้ทรงจัดชั้นมนุษย์ด้วยตระกูลแทนการจัดด้วยเอาความดีเป็นหลักซึ่งเป็นเพียงการกล่าวถึงความเป็นไปของมนุษย์เท่านั้น
(๗) สิคาลี ชายผู้หนึ่งเอาหนังมาฟั่นเชือกอยู่บนม้านั่ง ห้อยส่วนที่ฟั่นแล้วลงไปใต้ม้า นางสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งอยู่ใต้นั้น มันกินเชือกที่ฟั่นแล้วนั้นเสียร่ำไป ไม่เป็นเชือกขึ้นมาได้ ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งเด็กหญิงพากันเสื่อมเสียศีลธรรม สาละวนแต่ในการตกแต่งร่างกายให้สวยงามโลเลในชายหนุ่มดื่มน้ำเมา ศึกษาวิชาการยั่วยวนบุรุษให้หลงใหล ไม่ใส่ใจต่อการเรียนของตน ไปหาชู้โดยการกระโดดข้ามรั้วไปบ้าง เข้าทางหน้าต่างบ้าง ทรัพย์ที่สามีตนหามาได้สักเท่าไร ก็รั่วไหลไปด้วยการหน้าไหว้หลังหลอกนั้นๆ ไม่มีเวลาเหลือทำงานเรือนสักว่าพอเป็นที ใช้เวลาทั้งหมดนอกนั้นเพื่อความเพลิดเพลินส่วนเดียว ในยุคที่เรากำลังก่อร่างสร้างกำลังให้แก่ชาตินี้ขออย่าให้สมัยนี้มาถึงแก่พวกเราชาวไทยเลย
(๘) กุมฺโภ มีโอ่งน้ำใหญ่ตั้งอยู่ใบหนึ่ง โอ่งนิดๆล้อมอยู่เป็นอันมากโดยรอบ มนุษย์ทั่วทุกทิศพากันตักน้ำมาใส่แต่โอ่งใบใหญ่นั้นท่าเดียวจนหกล้นไปแล้วก็ยังใส่ ไม่มีใครใส่ในโอ่งเล็กๆนั้นบ้างเลย ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่ง ซึ่งราษฎรจักต้องทำงานหารายได้ บำรุงชนชั้นปกคอรงหรือรัฐบาลโดยส่วนเดียว โดยไม่ต้องนึกถึงการเก็บการมีของตนเอง ข้อนี้ถ้าหากว่าบำรุงชาติประเทศด้วยความจำเป็นในสมัย ต้องทำการป้องกันตัวอย่างเต็มที่ก็ไม่น่าจะถือว่าเป็นข้อเสียหาย และอีกอย่าง ความข้อนี้น่าจะได้แก่การที่ทุกวันนี้ การเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นต้น มันช่วยให้คนมั่งมีมั่งคั่งยิ่งขึ้น เครื่องจักรแย่งแรงงานของคนจนเสียหมด โอ่งน้อยๆ จึงว่างพร่อง โอ่งใหญ่ๆเต็มล้น ได้แก่ปัญหาคนจนไม่มีงานทำนั่นเอง
(๙) โปกฺขรณี มีสระน้ำใหญ่ ฝูงสัตว์ทุกชนิดพากันลงกินน้ำ แต่น้ำลึกๆ ที่กลางสระกลับขุนเป็นต้น ส่วนริมขอบสระใสแจ๋วเย็นสะอาด ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งในเมืองหลวงไม่เป็นที่อยู่อาศัยอันผาสุก มหาชนพากันหลีกออกไปหาที่อาศัยอันสำราญตามชนบท ในเมืองหลวงมีแต่ความยุ่งยาก ชนบทมีความเยือกเย็นสบายดี เมื่อในเมืองหลวงกำลังถูกบีบคั้นจากโจรภัย เป็นต้น ที่บ้านนอกเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาโดยไม่ต้องอาศัยอำนาจอาชญานี้ ท่านคงหมายถึงความยุ่งยากทางการเมืองหรือปัญหาเศรษฐกิจ เป็นต้น มากกกว่าความป่าเถื่อน ที่จะเกิดขึ้นในเมืองหลวง
(๑๐) อปากํ ข้าวสุกที่บุคคลหุงในหม้อเดียวกัน ซีกหม้อข้างหนึ่งสุกดี ข้างหนึ่งสุกๆ ดิบๆ อีกข้างหนึ่งดิบแท้ ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งชนชั้นปกครอง รัฐบาล ราชตระกูล อำมาตย์ ราษฏรทุกคนพากันถืออำนาจเป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม กระทั่งพวกเทวดาที่เนื่องอยู่กับมนุษย์ก็พลอยเป็นไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้น ฝนจักตกไม่เสมอ ในรัฐสีมาอันเดียวกัน ส่วนหนึ่งมีฝนตก ส่วนหนึ่งไม่ตกเลย อีกส่วนหนึ่งตกเล็กๆ น้อยๆ ข้อนี้คงหมายถึงชนิดที่มิใช่ธรรมชาติอุตินิยม คือเป็นเพราะเหตุนั้นๆ บันดาลจริงๆ อีกอย่างคือ คำว่า ฝน อาจเป็นชื่อของความผาสุกของประชาชนก็ได้ โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติวิทยา ก็ยังไม่ควรหัวเราะเยาะเร็วเกินไป เพราะน่าจะมีอะไรๆ อยู่มากที่เรายังคาดไม่ถึง
(๑๑) จนฺทนํ คนพวกหนึ่ง เอาแก่นจันทน์แดงอย่างดีราคาสูงสุดเป็นอันมาก ไปแลกนมเปรี้ยวอย่างเลวๆ หม้อเดียวท่านั้น ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งนักบวชในศาสนานี้ได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมวินัยของตถาคตซึ่งมีวิมุติเป็นคุณค่าอันเลิศ เป็นอันมากแล้ว พากันไปแลกลาภผลด้วยเห็นแก่ปากแก่ท้องเล็กๆ น้อยๆ เขาจะนำเอาคำของตถาคตที่ติเตียนความโลภไปแสดงแก่มนุษย์ทั้งหลาย ให้มนุษย์ละความโลภนั้นๆ โดยสละปัจจัยถวายตน อลัชชีเหล่านั้นเมื่อไม่อาจถอนตนออกจากความเป็นทาสในลาภ หรือตั้งอยู่ในฝักฝ่ายแห่งพระนิพพานได้ก็ได้อาศัยความรู้ในทางอรรถพยัญชนะหรือเสียงอันไพเราะแสดงธรรม ทายกผู้หลงใหลในความรู้หรือเสียงก็ถวายปัจจัยเป็นอันมาก อลัชชีบางพวก จักนั่งแสดงธรรมเรื่องพระนิพพาน ตามข้างถนน ทางสี่แพร่งและประตูของพระราชา(ประตูวัง) เพื่อเห็นแก่เงินเพียงมาสกหนึ่ง(ประมาณยี่สิบสตางค์) เป็นอย่างต่ำ เขาพากันนำเอาธรรมที่ตถาคตแสดงอันประกอบด้วยคุณค่าสูงสุด เพราะอาจยังสัตว์ให้ถึงพระนิพพาน ที่เขาทั้งหลายเรียนเอาแล้วเหล่านี้ไปแลกเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ข้อนี้ ทรงหมายถึงการกระทำของผู้ที่มุ่งลาภโดยส่วนเดียว เพราะคนประเภทนี้เป็นผู้ก่อให้เกิดประเพณีว่าจ้างให้แสดงธรรมทั้งที่การแสดงธรรมเป็นหน้าที่ของบุตรตถาคตโดยตรง
(๑๒) ลาวูนิ สีทนฺติ น้ำเต้าแห้ง กลวง เปล่า ซึ่งตามธรรมดา ย่อมลอยน้ำ กลับจมดิ่ง ทรงทำนายว่าจักมีสมัยหนึ่งซึ่งโลกแปรปรวน จนถึงกับนิยมเชื่อถือถ้อยคำของคนคดโกง ในราชสำนัก ในที่ประชุม ที่วินิจฉัยความ ถ้อยคำของคนเท็จ คนประจบ ได้รับการเชื่อถือ ในท่ามกลางสังฆสันนิบาต(ที่ประชุมภิกษุสงฆ์ทั้งหมด) คนทุศีลที่อาศัยศาสนาหากิน ย่อมมีเสียงดัง มีคนเชื่อฟัง คำของเขาเป็นดุจว่านำสัตว์ออกจากทุกข์ไปสู่พระนิพพานได้ ส่วนคนที่มีศีล ประพฤติตรง ประพฤติชอบ ไม่มีเสียง ดุจไม่เป็นถ้อยคำที่ยังผู้ฟังให้ออกจากทุกข์ได้ แม้ในการตัดสินอธิกรณ์เป็นต้น ก็ทำนองเดียวกัน เรื่องนี้ย่อมก่อให้เกิดความสังเวชเป็นอันมากและจะมียุคหนึ่งเสมอที่อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้
(๑๓) สิลา ปลวนฺติ สิลาแท่นทึบ โตเท่าเรือน พากันลอยฟ่องอยู่เหนือน้ำ เหมือนเรือสำเภาที่มิได้บรรทุกสินค้า ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งโลกแปรปรวน ทำคนตระกูลสูงตกยากโดยมาก คนตระกูลต่ำกลับมั่งคั่งและไม่เคารพคนตระกูลสูง ในที่ประชุมก็คือที่ที่คนไพร่ตระกูลต่ำพูดเยาะเย้ยถากถางคนผู้ดีตระกูลสูง ในท่ามกลางสังฆสันนิบาตก็คือที่ที่พวกอลัชชี พูดกดขี่ข่มเหง เยาะเย้ยถากถางภิกษุผู้เป็นลัชชี ข้อนี้ ถ้าเราจักเพ่งในฝ่ายดี ควรเข้าใจว่า คนตระกูลสูงประมาทจนเคยตัว วงกลมที่หนักมากก็หมุนไปตามกฎแห่งกรรม จนคนตระกูลสูงตกยาก คนตระกูลต่ำที่ไม่ประมาทยกตัวเองขึ้นได้ ด้วยความรู้ ความสามารถของตน จนมีฐานะดีกว่าคนชั้นสูง
(๑๔) มณฺฑูกิโย กณฺหสปฺเป คิลนฺติ นางเขียดน้อย ไล่ตามงูเห่าตัวมหึมา ทันแล้วกลืนกินเสียเหมือนที่มันกลืนกินก้านหน่อบัวอันอ่อน ฉะนั้น ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งที่บุรุษพากันตกอยู่ในอำนาจสตรี เพราะความหลงใหลในกามคุณ บรรดาทรัพย์สมบัติ ข้าทาส กรรมกรอยู่ในมือหญิงผู้เป็นแม่เรือนหมดเลยเป็นเหตุให้เล่นตัว มีอำนาจเด็ดขาดในมือ สามีไม่กล้าปริปากอะไรแม้แต่นิดเดียว ข้อนี้จะเป็นได้ในเมื่อสตรีเจริญด้วยศิลปะในการยั่วยวนถึงขีดสุด สามารถผูกมัดบุรุษไว้อยู่มือด้วยประการทั้งปวง ถ้าจะมีผลดีบ้างก็เป็นผลดีต่อการป้องกันสงครามของโลกเท่านั้น เพราะเชื่อว่าบางทีสตรีอาจห้ามบุรุษไม่ให้รบกันได้ สตรีไม่ปรากฏว่าชอบรบ ถึงจะรบก็ต้องเป็นการรบที่อ่อนแอเหมือนเพศของตน
(๑๕) กากํ สุวณฺณา ปริวารยนฺติ ราชหงส์สีทองทั้งหลาย เที่ยวแห่ห้อมล้อมอีกาสีดำไปทั่วๆ ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งราชตระกูลไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากพระราชา โดยที่พระราชาระแวง คิดตัดกำลังเสียงหรือด้วยเหตุอื่นๆ ก็ตาม ราชตระกูลเหล่านั้นต้องหันไปพึงพาอาศัยคนชั้นต่ำที่เป็นราษฏรเป็นต้นซึ่งเป็นผู้มียศมีอำนาจ ได้รับการแต่งตั้งจากพระราชา
(๑๖) ตสาวกา เอฬกานํ ภายนฺติ แพะทั้งหลายพากันไล่จับเสือมาเคี้ยวกินอยู่กรวบๆ ทรงทำนายว่า จักมีสมัยหนึ่งซึ่งพระราชาประพฤติผิดธรรม ทำคนตระกูลต่ำให้มีอำนาจ ปราบปรามคนตระกูลสูงหรือราชตระกูลให้อยู่ในอำนาจของตน ต่างพาริบเอาทรัพย์สินเงินทองด้วยอำนาจอันไม่ชอบธรรม ภิกษุที่เป็นบาปทั้งหลายพากันเบียดเบียนภิกษุที่ประพฤติธรรม เมื่อเธอเหล่านั้นไม่ได้ความยุติธรรมจากพระราชาหรือใครๆ ที่เป็นที่พึงของตนแล้วต่างก็ต้องหลีกออกไปอยู่ตามป่าตามเขาเพื่อแสวงหาสันโดษธรรมกันอย่างมาก
๓. อ่านคำทำนาย “ปัถเวทน์” แล้ว ศึกษาหลักธรรม กรณีธรรมะจากไตรลักษณ์

ดวงดีดอทคอม เวปใหม่